ในภาวะที่โลกธุรกิจมีความยากขึ้นเรื่อยๆ จากสภาพเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ความยากลำบากของแบรนด์ SME ที่ไม่ได้มีทุนหรืองบประมาณมากเหมือนกับแบรนด์ใหญ่ จะปรับตัวอย่างไรกันดี
ในงาน iCreator 2023 ที่ผ่านมา ได้มีการแชร์เทคนิคและวิธีการสร้างแบรนด์ของสอง SME ชื่อดัง ทั้งน้ำเต้าหู้ โทฟุซัง และบ๊วยรัศมีแข ซึ่งนอกจากจะสร้างยอดขายที่ดีแล้ว ยังมีแนวทางสร้างให้เกิดความรักในแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย
1. เลือกใช้ Social Media ให้เป็น
รัศมีเเข เจ้าของแบรนด์ “บ๊วยรัศมีแข” ได้เผยว่า ตอนเริ่มธุรกิจ ตัวเองก็ไม่ได้มีทุนหนามากมายเหมือนกับแบรนด์ใหญ่ แถมยังไม่ได้มีประสบการณ์มาก่อนด้วย เพราะฉะนั้นการใช้ Social Media ที่ต้นทุนน้อยเลยสำคัญมาก
แต่ใช่ว่าเราจะใช้ Social Media แล้วจะจบ แต่เราต้องเข้าใจธรรมชาติของแต่ละที่ด้วย เช่น TikTok เล่นได้ สนุกได้ เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด แต่พอไปลง Instagram อาจต้องเน้นภาพสวยๆ ภาพที่สื่ออารมณ์ออกมา บน Facebook ก็จะอีกแบบ
2. เน้นสร้างตัวตนให้ง่ายที่สุด
นอกจากนี้แบรนด์ต้องเข้าใจง่ายมาก อย่างตอนออกแบบแพ็คเกจสินค้า เลือกมาหลายแบบมากๆ แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าคิดเยอะเกินไป จนกลับมาเลือกแบบที่เข้าใจง่ายที่สุดเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด
อีกเรื่องคือต้องรู้จักการนำเสนอตัวเอง พยายามไป Collab กับคนอื่นให้มากที่สุด ช่วยต่อยอดให้คนรู้จักเราเพิ่มได้มากๆ
3. แชร์ 3 เคล็ดลับการประเมินตัวเองก่อนทำธุรกิจ
ทางด้านคุณนาม สุรนาม พานิชการ เจ้าของแบรนด์นมถั่วเหลืองโทฟุซัง ได้เผยว่า แบรนด์ของโทฟุซังเองก็ไม่ได้มีทุนมากมายเช่นกัน แต่จะเน้นที่การเข้าใจสิ่งรอบตัวก่อนจะทำอะไร โดยยกตัวอย่าง 3 เคล็ดลับที่น่าสนใจคือ
1. เข้าใจตัวเอง – ต้องรู้จักประเมินความสามารถของเรา (capability) ว่าเราทำอะไรได้มากแค่ไหน อะไรทำได้ดี อะไรทำได้ไม่ดี เช่น อยากขายของออนไลน์ แต่นมถั่วเหลืองที่เสียง่าย พอจะส่งแบบแช่เย็นออนไลน์ ทำได้ยาก เป็นต้น
2. เข้าใจลูกค้า – ต้องรู้จัก และเข้าใจ character ของลูกค้าเรา ว่าชอบแบบไหน แล้วทำสินค้าให้ตอบโจทย์ให้มากที่สุด นอกจากนี้ลูกค้าในแต่ละแพลตฟอร์มก็มีความชอบที่แตกต่างกันด้วย
3. ค่อย ๆ ทดลองทำไปเรื่อย ๆ – บางทีการทำอะไรใหญ่ๆ อาจเป็นเรื่องยากของ SME แต่ทางโทฟุซังจะเน้นเลือกแนวทางทดลองทำน้อย ๆ แต่ทำบ่อยๆ ซึ่งถ้าเจอทางที่ใช่ ให้ทำต่อไป
นอกจากนี้การเล่าเรื่องสินค้า หากเน้นที่ว่าทำอะไร มีอะไรบ้าง อาจจะไม่เข้าถึงใจคนซื้อได้ อาจจะลองเน้นเล่า Story ของสินค้า มากกว่าขายว่าสินค้าคุณทำอะไรได้ เป็นต้น
4. การนำสินค้าเข้าไปขายใน 7-Eleven มีส่วนช่วยพัฒนาสินค้าได้มาก
คุณนามเผยว่า เมื่อตอนที่นำสินค้าเข้ามาขายใน 7-Eleven ไม่ใช่แค่มีช่องทางการขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทางทีม 7-Eleven ยังมาช่วยพัฒนาสินค้าของเราตั้งแต่ตอนแรก
โดยทาง 7-Eleven เข้ามาแนะนำการพัฒนาสินค้าในหลายๆ มุม เพราะสินค้าเป็นของที่มีวันหมดอายุ และเสียได้ง่าย ซึ่งการที่มีทีมที่ดีลกับแบรนด์สินค้ามามาก เราก็ได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นเยอะมากด้วย
สำหรับบ๊วยรัศมีแข ก็ได้มีการนำแบรนด์เข้าไปอยู่ 7-Eleven เช่นกัน แต่คุณแขเล่าว่ากว่าจะนำสินค้าเข้าไปได้ เราต้องกลับเข้ามาพัฒนาสินค้าเราให้ดีกว่าเดิม ให้ได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
และทางทีม 7-Eleven ก็มีคำแนะนำรวมถึงเข้ามาช่วยตรวจสอบมาตรฐาน ซึ่งเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับแบรนด์ SME ที่อยากยกระดับขึ้นมา
ถือว่าเป็นคำแนะนำและข้อคิดที่น่าสนใจมากสำหรับคนทำธุรกิจ ซึ่งน่าจะนำไปใช้ประโยชน์กันได้ไม่มากก็น้อย
#iCreator2023
#ThePowerOfNEXTGen
#iCreatorConference
#SMEโตไกลไปด้วยกัน
#7Eleven
#CPALLGivingAndSharing