Site icon Thumbsup

“เราเป็นอีกช่องทางของการรับชม” ครบรอบ 5 ปี LINE TV ยืนยันไม่ใช่คู่แข่งทีวี

LINE TV เผยข้อมูลหลังครบรอบ 5 ปี เดินหน้าขยายฐานผู้ชมทั่วประเทศ มุ่งเจาะกลุ่มคนดูที่มีไลฟ์สไตล์คนเมือง เผยหลายสถิติที่น่าสนใจ พบคนดูผ่านมือถือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์, มีคนดูมากขึ้นหลังเปิดฟีเจอร์ฉายขึ้นทีวีผ่าน Chromecast และคอนเทนต์ละคร-ซีรีส์ไทยได้รับความนิยมสูงสุด พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัน LINE TV บน Android TV นอกจากนี้ประกาศเร่งสร้างฐานผู้ชมหน้าใหม่ที่เป็น Mass อีกด้วย

คุณกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนท์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่เปิดให้บริการแพลตฟอร์มทีวีออนไลน์ LINE TV ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ชมดีมากและได้สร้างพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ไทยแบบใหม่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ชม จำนวนคอนเทนต์ และจำนวนพาร์ทเนอร์ รวมถึงจำนวนยอดวิวโดยเฉลี่ยต่อคอนเทนต์ ที่ล้วนขยายเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี”

โดยในปีนี้ จะโฟกัสที่กลุ่มคนดูที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง แต่ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพหรือเมืองหลักเท่านั้น แต่เป็นการโฟกัสที่ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศนั้นต้องการจัดการตารางชีวิตของตัวเองได้ อยากดูคอนเทนต์เมื่อไรก็ดูได้ทันที เลือกดูตามความต้องการและความสะดวกของตนเอง เรียกว่าทุกคนสามารถสร้างไพร์มไทม์ในการรับชมคอนเทนต์ของตนเองได้

คุณกณพ กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่จะช่วยให้ LINE TV ขยายฐานผู้ชมได้เร็วขึ้นนั้น คือการพัฒนารอบด้าน ทั้งแง่ของ

  1. การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์
  2. การพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ชมมากขึ้น ทั้งรองรับการสตรีมมิ่งขึ้นทีวีผ่าน Chromecast และเปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ LINE TV ใน Android TV
  3. การพัฒนาการระบบการค้นหาคอนเทนต์ให้ง่ายและรวดเร็ว โดยมีการเพิ่ม Tab ใหม่อีก 2 Tab คือ “100 ล้านวิว” Tab เพื่อแสดงคอนเทนต์ยอดนิยม และ “Movie Tab” เมนูการรับชมภาพยนตร์แบบเต็มเรื่อง จากพาร์ทเนอร์กลุ่มภาพยนตร์แบบถูกลิขสิทธิ์

ซึ่งคุณกณพเชื่อว่า ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยยกระดับประสบการณ์ในการรับชมรายการจาก LINE TV ให้เป็นไปดียิ่งขึ้น

ตัวเลขสถิติของ LINE TV เบื้องต้น หลังครบรอบ 5 ปี มีดังนี้

รายละเอียดของสถิติ LINE TV ของปี 2562

เริ่มที่สัดส่วนของคอนเทนต์บน LINE TV ที่ได้รับความนิยมจะพบว่า มีคอนเทนต์ละครและซีรีส์ไทย จำนวน 75 เปอร์เซ็นต์, รองลงมา คือ คอนเทนต์แนว Entertainment & Variety จำนวน 15 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ อีกจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์

ข้อมูลระบุว่าผู้ชม LINE TV 40 เปอร์เซ็นต์ ดูบนแพลตฟอร์มดังกล่าวทุกวัน หรือเกือบทุกวัน โดยหากแบ่งเป็นช่วงอายุจะได้ดังนี้

  1. อายุ 14-23 ปี มีผู้ชม(เกือบ)ทุกวัน 37 เปอร์เซ็นต์
  2. อายุ 24-29 ปี มีผู้ชม(เกือบ)ทุกวัน 44 เปอร์เซ็นต์
  3. อายุ 30-40 ปี มีผู้ชม(เกือบ)ทุกวัน 40 เปอร์เซ็นต์
  4. อายุ 41-60 ปี มีผู้ชม(เกือบ)ทุกวัน 39 เปอร์เซ็นต์

โดยจะเห็นได้ว่าผู้ชมช่วงอายุ 14-23 ปี จะใช้เวลาในการชมเฉลี่ยมากที่สุด ส่วนผู้ชมช่วงอายุ 24-40 ปี ดูในช่วงเวลา 15:00-18:00 น. มากที่สุด

ซึ่งถ้าไปดูจังหวัดที่ชม LINE TV มากสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ (1) กรุงเทพฯ (2) เชียงใหม่ (3) ชลบุรี (4) ขอนแก่น (5) นครราชสีมา (6) สงขลา (7) นครปฐม (8) นครสวรรค์ (9) ภูเก็ต และ (10) อยุธยา

แน่นอนว่าจากการขยายคอนเทนต์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้เห็นว่าละครบางเรื่องก็ได้รับความนิยม เช่น ละครเรื่อง “สู้ตายนายกระจับ” ก็สามารถสร้างฐานคนดูจากหัวเมืองอื่นๆ มาได้เช่นกัน โดย 3 จังหวักที่มียอดคนดูมากที่สุด ได้แก่ (1) เชียงใหม่ (2) พัทยา และ (3) ขอนแก่น

หากดูช่องทางการรับชม LINE TV จะพบว่ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์อยู่บนมือถือหมดแล้ว (52 เปอร์เซ็นต์ดูจาก Mobile App, 24 เปอร์เซ็นต์ดูผ่าน LINE Ecosystem และ 14 เปอร์เซ็นต์ดูผ่านเว็บบนมือถือ) และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ดูผ่านเว็บบน PC

และยังพบว่า 35 เปอร์เซ็นต์นั้นกดดูบน LINE TV โดยตรง, 35 เปอร์เซ็นต์เข้าดูผ่านการค้นหา และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ดูผ่าน LINE Ecosystem – Social Media

ส่วนช่วงเวลาที่มีคนชม LINE TV มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  1. ช่วง 15:00-18:00 น. – เป็นช่วงที่นักเรียน นักศึกษา และพนักงานกำลังเดินทางกลับบ้าน ถือเป็นช่วงที่คนดูรายการย้อนหลังมากที่สุด
  2. ช่วง 20:00-22:00 น. – เป็นช่วงที่หลายๆ คนเพิ่งกลับถึงบ้าน จึงต้องการดูอะไรเพื่อเป็นการผ่อนคลาย
  3. ช่วง 12:00-14:00 น. – เป็นช่วงเวลาที่ทั้งนักเรียน นักศึกษา และพนักงาน กำลังพักกลางวัน

และเมื่อดูที่ฐานผู้ชมที่ LINE TV จะโฟกัสในการนำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะสม จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ไล่ตั้งแต่

  1. Youngster – เป็นวัยรุ่นและวัยเรียน อายุ 14-25 ปี
  2. Premium Mass – เป็นวัยทำงาน อายุ 21-34 ปี
  3. Segmented Users – เป็นกลุ่มที่ครอบคลุมช่วงอายุกว้างตั้งแต่ 14-34 ปี แต่มีความชื่นชอบคอนเทนต์ที่มีลักษณะเฉพาะทั้งรูปแบบและเนื้อหา
  4. Mass – เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด โดยครอบคลุมอายุ 14-45 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ชมใหม่ โดยหลังจากนี้จะป้อนคอนเทนต์ที่ดูง่าย และทุกคนในครอบครัวดูได้ให้มีมากขึ้น

โดยคุณกนพเชื่อว่าการก้าวสู้เป้าหมายในการเป็น “No.1 Online TV Platform ของไทย” คงไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะ จากผู้ใช้งาน LINE จำนวน 44 ล้านคนนั้น เมื่อต้นปีมีผู้ใช้ LINE TV 33 ล้านคน แต่ล่าสุด LINE TV มีผู้ใช้เกือบ 40 ล้านคนแล้ว ซึ่งถ้าจำนวนผู้ใช้ LINE TV สามารถทำได้มากกว่าจำนวนผู้ชมทีวี (ที่อยู่ที่ 55 ล้านคน) ได้ก็คงถือว่าเป็นเป้าหมายที่ไปถึงเช่นกัน

 

ยอมรับการใส่ฟีเจอร์ Chromecast เพิ่มยอดคนดู

นอกจากนี้ LINE TV ยังเปิดเผยด้วยว่าการใส่ฟีเจอร์เพื่อให้สามารถรับชมผ่าน Chromecast (เปิดตัวในช่วงเดือนกรกฎาคม 2562) ส่งผลให้ตอนนี้มียอดชม LINE TV ผ่าน Chromecast มากกว่า 3 ล้านครั้งแล้ว โดยแต่ละเดือนมียอดการเติบโตมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

หากดู Top 3 ของคอนเทนต์แต่ละหมวดที่รับชมผ่าน Chromecast มากที่สุด มีดังนี้

นอกจากนี้ยังได้เริ่มปล่อยแอป LINE TV ลงบน Android TV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแอป LINE TV บน Apple TV จะเปิดให้ดาวน์โหลดในเร็ววันนี้

รวมถึงมองว่าการมี OTT Platform มากรายในตลาดตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลของ LINE TV แต่เป็นเรื่องดีเพราะทำให้ตลาดคุ้นชินกับบริการสตรีมมิ่งมากขึ้น และเลือกได้จะดูเรื่องไหนผ่านแพลตฟอร์มอะไรได้มากยิ่งขึ้น และมองว่า “เราเป็นอีกช่องทางของการรับชม” ไม่ใช่คู่แข่งกับทีวี ซึ่ง LINE TV ย้ำกับพาร์ทเนอร์ตลอด คุณกณพอธิบายทิ้งท้าย