Site icon Thumbsup

6 ประเภทสินค้าขายดีออนไลน์ ที่จะวางขายหน้าร้านออฟไลน์มากขึ้นในอินเดีย

แม้จะเป็นบทวิเคราะห์ในอินเดีย แต่ผลการวิเคราะห์นี้น่าสนใจมากเพราะอาจสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของหน้าร้านค้าปลีกทั่วโลก โดยเฉพาะสินค้า 6 ประเภทนี้ที่คาดว่าบางส่วนจะได้เห็นหนาตามากขึ้นตามห้างซูเปอร์สโตร์ของไทยเช่นกัน

Karan Kashyap นักเขียนของ Forbes วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในวงการค้าปลีกอินเดียโดยยกสถิติจากบริษัทวิจัย Forrester มาอ้างอิงเรื่องการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซอินเดีย เบื้องต้นมีการพยากรณ์ว่าเงินสะพัดในวงการค้าปลีกออนไลน์ของอินเดียจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1 ใน 3 เป็น 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐจาก 4.8 หมื่นล้านเหรียญในปี 2020

แม้ยอดขายออนไลน์จะขยายตัว แต่แบรนด์ค้าปลีกออนไลน์ในอินเดียกำลังส่งสัญญาณบุกหนักโลกออฟไลน์ ด้วยการเปิดร้านค้าปลีกบนถนนหรือห้างสรรพสินค้ามากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตลาดออฟไลน์คึกคักเห็นได้ชัด โดย 1 ใน 6 ประเภทสินค้าที่จะถูกนำมาเปิดร้านขายมากขึ้นในอินเดียคือสมาร์ทโฟน

สมาร์ทโฟนเป็น 1 ใน 6 สินค้าที่ถูกมองว่าจะมีการเปิดร้านสาขามากขึ้นในอินเดียช่วงปีนี้ เนื่องจากวันนี้แบรนด์ที่วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนเฉพาะออนไลน์ทั้ง Xiaomi, OnePlus, LeEco, Motorola และ InFocus ต่างพยายามดึงให้ชาวอินเดียได้สัมผัสกับแบรนด์ในโลกออฟไลน์ กรณีของ LeEco นั้นมีแผนเปิดศูนย์บริการในอินเดียมากกว่า 100 แห่ง

ประเภทที่ 2 คือเสื้อผ้า แบรนด์ค้าปลีกเสื้อผ้าออนไลน์ในอินเดียเริ่มหันมาเปิดร้านออฟไลน์บ้างแล้ว ตัวอย่างเช่นแบรนด์ในเครือ Flipkart ชื่อ Myntra ที่เปิดร้านพร้อมหน้าจอทัชสกรีนหลากหลายเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าจับจ่ายซื้อเสื้อผ้าได้สะดวกกว่าเดิม เทรนด์นี้กำลังเริ่มขยายตัวในอินเดีย ไม่แน่ว่าอาจจะขยายในประเทศอื่นเช่นกัน

ประเภทที่ 3 คือบริการสินเชื่อ บริการสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยแดนโรตีนั้นได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์สูงในขณะนี้ ทั้ง Flipkart, Snapdeal, Amazon, Paytm และ Pepperfry วันนี้บริการนี้กำลังเริ่มขยายมายังตลาดออฟไลน์มากขึ้น

กลุ่มที่ 4 คือเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ออนไลน์ชื่อดังในอินเดีย Urban Ladder ประกาศแผนตั้งโชว์รูม 10 จุดบนงบประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว โดยจะจับมือกับ Tata Housing เพื่อแสดงสินค้าในเมืองใหญ่อย่าง Mumbai, Bengaluru และ Gurgaon

กลุ่มที่ 5 คืออาหาร เจ้าพ่อออนไลน์อเมริกันอย่าง Amazon เปิดแผนสร้างร้านชำที่ลูกค้าไม่ต้องลงจากรถ แม้จะยังเป็นข่าวที่ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่ก็เป็นสัญญาณที่ปลุกให้วงการของชำในอินเดียตื่นตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ Grofers และ Bigbasket บริการของชำออนไลน์จากเยอรมนีก็ประกาศพร้อมลงทุนในตลาดของชำอินเดียเช่นกัน

ประเภทสุดท้ายคือสินค้ากลุ่ม White goods เช่นเครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ (ที่มักทาสีขาวที่สินค้า) เป็นสินค้าที่ผู้ผลิตจะต้องการให้ชาวอินเดียได้สัมผัสที่จุดชำระเงินหรือ point of sale ในร้านค้ามากขึ้น เพื่อดันให้ยอดจำหน่ายออนไลน์เติบโตขึ้นอีก หลังจากที่มีแนวโน้มดีด้วยการเติบโต 7.7% จาก 6.6% ในปี 2015

ที่มา: TechinAsia