Site icon Thumbsup

“แสนสิริ” เปิดตัว “AI box” รับคำสั่งเสียงภาษาไทยรายแรก เจาะกลุ่มคอนโดเซกเมนต์บี คาดเปิดตัว Q2’2018

(ซ้ายไปขวา) ดร.วิชญ์ เนียรนาทตระกูล, ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ และดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง

จากที่ก่อนหน้านี้ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่างแสนสิริได้เคยแย้ม ๆ เอาไว้ว่า มีแผนจะนำแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์เข้ามาให้บริการลูกบ้าน ล่าสุดในวันนี้ แสนสิริได้มีการเปิดตัวปัญญาประดิษฐ์ชื่อดังอย่าง Alexa แล้วในรูปแบบลำโพงอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นโดยแสนสิริเอง และพร้อมรองรับการสั่งงานด้วยภาษาไทยด้วย

ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้นับเป็นปีแห่งการปรับเปลี่ยนองค์กรของแสนสิริอย่างรอบด้านเพื่อให้บริษัทฯ เติบโตและรักษาความเป็นผู้นำได้อย่างยั่งยืน สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการลงทุนด้านนวัตกรรม เพราะประสบการณ์เกือบ 35 ปีของเราในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทำให้แสนสิริเห็นความเปลี่ยนแปลงในไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล”

“เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะตอบโจทย์ของลูกค้าได้ดี จึงได้พยายามนำเทคโนโลยีมาต่อยอดใช้ประโยชน์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในมิติใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง  เพื่อยกระดับการบริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านและรักษาความเป็นผู้นำในการบุกเบิกและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยของวงการอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง”

สำหรับความสามารถของ AI box ดังกล่าวจากแสนสิรินั้น แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ นั่นคือ Home Automation และ Home Services ซึ่ง Home Automation นั้นยกตัวอย่างเช่น การเช็คข่าวประจำวัน การแจ้งข้อมูลสภาพอากาศ – สภาพการจราจร รวมถึงการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน เช่น แอร์ ทีวี ฯลฯ ด้วย ส่วน Home Services นั้น AI box สามารถจอง Facilities ต่าง ๆ ของคอนโดมิเนียม เช่น คลาสโยคะ หรือสั่งให้น้องแสนดี (บริการหุ่นยนต์จัดส่งพัสดุภายในคอนโดมิเนียม)  นำสิ่งของมาส่งให้ถึงหน้าห้องได้ เป็นต้น

ส่วนความสามารถในอนาคตของ AI box ดังกล่าวนั้นแสนสิริระบุว่าอาจนำไปใช้ในเรื่องต่าง ๆ ได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วออนไลน์, การเรียกรถแท็กซี่, บริการซักรีด  ฯลฯ

ทั้งนี้ AI box ดังที่ปรากฏยังเป็นรุ่นโปรโตไทป์ โดยในระหว่างนี้แสนสิริระบุว่าอยู่ระหว่างการพัฒนากับพาร์ทเนอร์ทั้งสองบริษัทอย่าง Amazon Web Services และเดลิเทค โดยตั้งเป้าการใช้งานจริงในคอนโดมิเมียมในเซกเมนต์บี ตารางเมตรละ 150,000 – 300,000 บาท) ของแสนสิริภายในไตรมาสสองของปีหน้า และไม่มีค่าใช้บริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ส่วนชื่อนั้นอาจมีการเปิดตัวชื่อใหม่อย่างเป็นทางการ โดยอาจขึ้นต้นด้วย “แสน” เหมือนโปรดักซ์ก่อนหน้านี้ อย่างหุ่นยนต์น้องแสนดี เป็นต้น

สำหรับการจับมือกับ Amazon Web Services หรือ AWS นั้น แสนสิริระบุว่าที่ผ่านมาได้มีการใช้งาน AWS ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นวงการกีฬา ที่มีการนำภาพ Movement ของนักกีฬาในสนามมาประมวลผลว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยอย่างไร หรือวงการการแพทย์ที่นำไปใช้สแกนม่านตาเพื่อตรวจหาเบาหวาน หรืออุตสาหกรรมยานยนต์กับเทคโนโลยี Autonomous Driving ซึ่งแสนสิริมองว่าเป็นบริการที่มั่นใจได้ในด้านซีเคียวริตี้

ดร.ทวิชาเผยด้วยว่า ที่ผ่านมา แอปพลิเคชันของแสนสิริได้รับความสนใจจากลูกบ้านจำนวนมาก โดยมียอดการดาวน์โหลดมากกว่าหมื่นครั้ง แต่มากไปกว่านั้น แสนสิริยังเห็นถึงความต้องการของระบบการสั่งการด้วยเสียงด้วย จึงเป็นเหตุให้มีการจับมือกับ Amazon Web Services และเดลิเทคพัฒนาระบบ AI box ในที่สุด