Site icon Thumbsup

อ่านแผนอาลีบาบา กรุ๊ป สร้างแคมเปญ 11.11 อย่างไร ให้คนอยากช้อปพร้อมกันทั่วโลก

มหกรรม 11.11 ที่ประเทศจีนเรียกว่าวันคนโสดนั้น กลายมาเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของนักช้อปชาวจีนที่ต้องการสั่งซื้อสินค้า หรือจับตาดูแคมเปญสุดพิเศษจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Youku Tudou, ทีมอลล์และเถาเป่า ในเครืออาลีบาบา หากมองย้อนกลับไปในตัวเลขรวมแต่ละปี เรียกได้ว่ากระแสเทศกาลนี้ ส่งผลให้ตัวเลขซื้อขายไม่แผ่วลงเลย

ตัวเลขยอดขาย 11.11 Global Shopping Festival

กิจกรรมนี้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันยาวนานถึง 12 ปีแล้ว (เริ่มต้นปี 2552) ซึ่งในปีแรกที่เปิดตัวก็ทำยอดขายได้ถึง 7.8 ล้านเหรียญสหรัฐ  จนปัจจุบันนวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่เรียกได้ว่าตอบสนองเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การช้อปปิ้งของคนยุคใหม่สะดวกสบายกว่าเดิม

นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีไลฟ์สตรีมที่ได้รับความนิยมมาใช้เพื่อสร้างสีสันและการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคชาวจีนให้มากขึ้น ในปีนี้ยังมีการขยายงานออกไปยังทั่วโลกมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มจัดมา

สำหรับหลายแบรนด์แล้ว 11.11 ถือเป็นงานประจำปีที่สร้างยอดขายทำให้งาน 11.11 ยังคงดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะบริษัทยังคงสนับสนุนผู้ขายผ่านการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ และข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค รวมถึงเทคโนโลยีที่เสถียร เพื่อทำตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมที่เคยวางไว้นับตั้งแต่เริ่มต้น

สร้างการมีส่วนร่วมแบบ “สองเท่า”

สำหรับการจัดงานมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ในปีนี้ได้ขยายแนวคิดของงานจากเดิมที่เป็นช้อปปิ้งของคน “โสด” (Single) ให้กลายเป็น “สองเท่า” (Double) เพื่อให้ผู้ขายมีช่องทางโปรโมทสินค้าไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศจีนเพิ่มขึ้นสองเท่า โดยก่อนหน้าการจัดงานในวันที่ 11 พฤศจิกายน ระบบจะมีการเพิ่มช่วงเวลาแห่งการช้อปเป็นระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน เพื่อให้ผู้ขายโดยเฉพาะแบรนด์ใหม่และธุรกิจรายย่อย ได้มีโอกาสแสดงสินค้าและเรื่องราวของตนมากขึ้นในช่วงนี้

มหกรรม 11.11 กลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญประจำปีที่หลายแบรนด์ใช้ในการเปิดตัวสินค้าใหม่ และในปีนี้มีสินค้าใหม่เปิดตัวมากกว่า 2 ล้านรายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่ผ่านมา

เจียง ฟ่าน ประธานกรรมการของเถาเป่าและทีมอลล์ กล่าวว่า นวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ในปีนี้ เรามีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิมที่จะช่วยให้ธุรกิจคว้าโอกาสและสร้างการเติบโตผ่านแนวคิดและกิจกรรมใหม่ๆ ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น

โดยช่วงของการเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค และทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับดิจิทัล และในปีนี้เราได้ขยายแนวคิดจากความ “โสด” ไปเป็น “สองเท่า” เพื่อสร้างโอกาสที่มากขึ้นให้กับผู้ขายในการมีส่วนร่วมกับผู้ซื้อทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งโดยรวมที่ดีขึ้นให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ ประสบการณ์ช้อปปิ้งในงาน 11.11 ปีนี้ ยังถูกยกระดับโดยนำแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของอาลีเพย์เข้ามาใช้ เพื่อนำผู้ขายในแต่ละท้องถิ่นเกือบ 2 ล้านราย หรือมากกว่า 100 เมืองของจีน เข้ามาร่วมนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ ดังนั้นร้านค้าออฟไลน์ขนาดเล็กและขนาดย่อมก็สามารถเข้าร่วมงาน 11.11 ด้วยการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของอาลีเพย์ได้

 

โอกาสสำหรับผู้ขายเพื่อสร้างการเติบโต

ทั้งนี้ อาลีบาบายังได้เปิดตัวโครงการ Spring Thunder initiative เพื่อสนับสนุนผู้ขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงาน 11.11 ก็เป็นหนึ่งในความพยายามเพื่อช่วยให้ผู้ขายกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้อีกครั้ง

สำหรับงานในปีนี้มีสินค้าราคาคุ้มค่าเข้าร่วมบนทีมอลล์ถึง 14 ล้านรายการ จาก 250,000 แบรนด์ ถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับปีแรกที่เริ่มมีแคมเปญนี้ ที่มีผู้ขายเข้าร่วมเพียง 27 ราย และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเมืองรอง เถาเป่ายังนำเสนอดีลผ่านแคมเปญ “RMB1 Sales” ที่ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาลด โดยไม่คิดค่าจัดส่งด้วย

และเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาวจีน ทีมอลล์ โกลบอล ยังได้นำแบรนด์ใหม่จากต่างประเทศมากกว่า 2,600 แบรนด์เข้ามาจำหน่ายให้ผู้บริโภคชาวจีนผ่านทาง เคาล่า (Kaola) แพลตฟอร์มขายสินค้าข้ามพรมแดน เพื่อนำเสนอสินค้าจาก 89 ประเทศในทุกภูมิภาคทั่วโลก

ไลฟ์สตรีมและโลจิสติกส์ ตัวช่วยเรื่องการขายให้ดีขึ้น

กระแสการไลฟ์สตรีมกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยภายในงาน 11.11 นอกจากจะมีนักไลฟ์สตรีมชื่อดังมานำเสนอสินค้าผ่านรายการแล้ว ยังมีผู้บริหารจากบริษัทต่างๆ เกือบ 400 คน และเซเลบริตี้อีก 300 คน ร่วมจัดรายการของตนเองผ่านทางไลฟ์สตรีมอีกด้วย

ซึ่งเถาเป่า ไลฟ์ (Taobao Live) จะนำเสนอรายการขายสินค้าต่างๆ นับตั้งแต่เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงรถยนต์ และบ้าน โดยฟีเจอร์ใหม่อย่างการเยี่ยมชมอสังหาริมทรัพย์แบบออนไลน์ และการทดสอบรถยนต์แบบเสมือนจริง ที่เรียกว่าจะเป็นการมอบประสบการณ์มีส่วนร่วมที่สมจริงยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจซื้อ

ส่วนสถาบันต้าโหมว (DAMO) ของอาลีบาบายังใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาจัดการไลฟ์สตรีมแบบเสมือนจริงขึ้นเป็นครั้งแรก และฟลิกกี้ก็จะจัดไลฟ์สตรีมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน

และเพื่อให้การจัดงานในปีนี้ขยายโอกาสทางการซื้อไปยังทั่วโลกมากที่สุด ทั้งอาลีเอ็กซ์เพรสและลาซาด้าเอง ก็ถือโอกาสนำแนวคิดของมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 มาจัดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม จนมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรม เพราะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในแต่ละประเทศต่างเข้าร่วมสุดยิ่งใหญ่นี้

สำหรับในปีนี้ LazMall จะกลายเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ด้วยจำนวนแบรนด์ท้องถิ่นและนานาชาติ รวมกันมากกว่า 18,000 แบรนด์ ทั้งนี้ ทางลาซาด้ายังสานต่อฟีเจอร์ “ช้อปเปอร์เทนเมนต์” ที่ผู้ซื้อจะได้เห็นตั้งแต่การไลฟ์สตรีม ไปจนถึงการเปิดตัวเกมใหม่สำหรับผู้บริโภค และนำเสนอนวัตกรรมใหม่อย่างการค้นหาสินค้าโดยใช้เสียง

ด้วยเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ยอดเยี่ยมของอาลีบาบา ถือเป็นกลไกหลักของมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 โดยไช่เหนียว (Cainiao) จะมีการขนส่งสินค้าด้วยเที่ยวบินราว 700 เที่ยวงาน 11.11 นี้ ซึ่งคาดว่าพัสดุ 50% จะสามารถขนส่งโดยใช้เวลาน้อยกว่าช่วงเวลาปกติสองเท่าตัว

 

สิ่งที่น่าสนใจจากอาลีบาบา กรุ๊ปในงาน 11.11

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ทาง อาลีบาบา กรุ๊ป ได้เริ่มการพรีเซลสำหรับมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ประจำปี ถือว่าเป็นการเปิดช่วงพรีเซลสองครั้งเพื่อให้แบรนด์และธุรกิจที่เข้าร่วมมีโอกาสในการขายและสินค้าได้มากขึ้น และเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ได้ผนึกกำลังอีโคซิสเท็มของอาลีบาบาเพื่อสนับสนุนร้านค้าและมอบประสบการณ์รีเทลล้ำสมัยให้กับผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น และนี่คือไฮไลท์ที่น่าสนใจ

ช่วงพรีเซลคนช้อปและยอดโอนเพิ่มมหาศาล

ความสวยความงาม-ทำความสะอาดยังนิยม

สินค้านำเข้าจากทั่วโลกหลั่งไหลผ่านระบบ Tmall