Site icon Thumbsup

Alibaba โชว์ยอดใช้จ่ายบน Taobao และ Tmall ทะลุ 2.72 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ

ecommerce-in-China

ไม่ธรรมดาเลยสำหรับสถิติน่าทึ่งจากวงการอีคอมเมิร์ซจีน ล่าสุดเจ้าพ่อค้าปลีกออนไลน์ของจีนอย่าง Alibaba ประกาศว่ายอดใช้จ่ายบนร้านค้าออนไลน์ในจีนแผ่นดินใหญ่ทั้ง Taobao และ Tmall นั้นทะลุหลัก 2.72 แสนล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา คิดเป็นเงินไทยก็ไม่มาก เพียงแค่ประมาณ 8.7 ล้านล้านบาทเท่านั้น!!!

สถิตินี้ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ร้องแรงที่สุดจากวงการอีคอมเมิร์ซจีนที่ถูกประกาศต่อสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Alibaba นั้นให้ข้อมูลส่วนนี้ไว้ในเอกสารเปิดจำหน่ายหุ้น IPO ซึ่งแจ้งต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาหรือ SEC ทำให้ข้อมูลส่วนนี้ถูกสื่ออเมริกันนำไปรายงานข่าวต่อเนื่องตลอดช่วงกลางสัปดาห์

เอกสารของ Alibaba ระบุว่าเว็บไซต์ค้าปลีกของชาวจีนอย่าง Taobao.com และ Tmall.com นั้นเป็นแหล่งรายได้หลักของ Alibaba ทั้ง 2 เว็บไซต์ทำเงินให้ Alibaba มากกว่า 81.6% แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือสัดส่วนกำไรหรือ profit margin ของทั้ง 2 ร้านนั้นลดลงจาก 51.3% มาเป็น 45.3% เมื่อช่วงไตรมาส 1 ปี 2014 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2013

Taobao.com นั้นมีภาษีเหนือกว่า Tmall.com เพราะ Alibaba เผยว่า Taobao มียอดสั่งซื้อรวมหรือ gross merchandise volume รวม 1.173 ล้านล้านหยวน (ราว 6 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่ช่วงเวลาไตรมาส 1 ปี 2013 ถึงไตรมาส 1 ปี 2014 ขณะที่ Tmall มียอดสั่งซื้อ 5.05 แสนล้านหยวนเท่านั้น (ราว 2.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งหากคำนวณแล้ว นักช้อปของ Taobao ใช้จ่ายเงินมากกว่านักช้อป Tmall ราว 2 เท่าตัว

หากมองที่ตัวเลขกลมๆ 8.7 ล้านล้านบาท Alibaba ระบุว่า 27.4% ของยอดซื้อบน Tmall และ Taobao เป็นการใช้จ่ายผ่านอุปกรณ์พกพาหรือ mobile device คิดเป็นสัดส่วนเติบโตจาก 7.4% ในช่วงปลายปี 2012

อย่างไรก็ตาม Tmall ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังหรือ large merchant ของจีนนั้นมีอัตราเติบโตที่ดีกว่า Taobao ซึ่งเป็นแหล่งค้าปลีกออนไลน์สินค้าแบรนด์เล็กจากผู้ค้ารายย่อยหรือ small merchant โดยยอดจำหน่ายของ Tmall คิดเป็นอัตราเติบโตมากกว่า 90.1% เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา ขณะที่ Taobaoมีอัตราเติบโต 32.3% เท่านั้น

สำหรับความคืบหน้าเรื่องการจำหน่าย IPO ของ Alibaba ข่าวลือเชื่อว่า Alibaba จะพร้อมจำหน่ายหุ้นในตลาดอเมริกันราวเดือนสิงหาคม และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในการเสนอขายหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทีเดียว

ที่มา : Tech in Asia