หากเอ่ยถึงโลกของแอปพลิเคชันทุกวันนี้ คงต้องบอกว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วจากยุคเริ่มแรก โดยเฉพาะการวัดมูลค่าของแอปที่เปลี่ยนจากการพิจารณาจำนวนการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปนั้น ๆ บนสมาร์ทโฟน มาสู่การวัดมูลค่าของแอปจากการ “สร้างรายได้” หลังจากที่ผู้บริโภคติดตั้งแอปนั้น ๆ บนตัวเครื่องแทนเสียแล้ว
โดยมีการเผยตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้จ่ายในแอปพลิเคชันต่าง ๆ จาก AppsFlyer ที่พบว่า ปัจจุบัน ยอดการใช้จ่ายในแอปพลิเคชันเพื่อการช้อปปิ้งนั้นสูงกว่าแอปพลิเคชันประเภทเกมไปแล้ว แถมยังพบว่า ผู้บริโภคในแถบอาเซียนนั้นมีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันมากกว่าผู้บริโภคในโซนอื่น ๆ ถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ขณะที่ผู้บริโภคในโซนอเมริกาเหนือนั้น เป็นกลุ่มมือหนักและมือเติบ และเป็นกลุ่มที่อาจไม่ได้ซื้อบ่อย ๆ แต่จ่ายเงินซื้อสินค้าเมื่อไร รับรองยอดการใช้จ่ายนั้น ๆ แพงกว่าผู้บริโภคโซนอื่นสุด ๆ
ส่วนผู้บริโภคในแถบละตินอเมริกาแม้จะไม่โดดเด่นในด้านตัวเลขการใช้จ่าย แต่ก็มีจุดเด่นด้าน “จำนวนครั้ง” ของการใช้จ่ายผ่านแอปที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ใช้งานทั่วโลกถึง 48 เท่า
มากไปกว่านั้น การสำรวจของ AppsFlyer ยังพบว่า ผู้ใช้ iPhone มีแนวโน้มจะใช้จ่ายผ่านแอปมากกว่าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android โดยพบว่าผู้ใช้ iOS มากกว่า 7 เปอร์เซ็นต์มีการจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อเดือน ส่วนผู้ใช้ Android นั้นมียอดการใช้จ่ายประเภทดังกล่าวไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีแอปพลิเคชันไม่มากนักที่ผู้ใช้งานมีการใช้จ่ายในแอปอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนักพัฒนาและนักการตลาดต้องหาทางทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้แอปตลอดเวลา เพื่อรักษาไว้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ไว้ในฐานะลูกค้าชั้นดีนั่นเอง
ที่มา MarketingTechNews