บ้านปู เน็กซ์ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดความสำเร็จตลอดปี 2565 ลุย 5 ธุรกิจเชิงรุก ขยายพอร์ตโซลาร์ทุกประเภทในไทยและต่างประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าหมุนเวียนขนาดใหญ่ ทั้งโซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์รูฟท็อป สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทย เข้าลงทุนในบริษัทชั้นนำ และร่วมทุนพันธมิตรรายใหญ่ ยกระดับอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) พลังงานสะอาดให้แข็งแกร่งขึ้น คว้าลูกค้าโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และจัดการพลังงานหลายอุตสาหกรรม รวมถึงขยายธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าในญี่ปุ่นและออสเตรเลีย เผยปีนี้เตรียมขยายพอร์ตลูกค้าทุกธุรกิจ และเพิ่มการลงทุนทั่วเอเชียแปซิฟิก เพื่อสอดรับยุคเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 เราเดินหน้าเสริมแกร่งระบบนิเวศทุกกลุ่มธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “Greener & Smarter” ของกลุ่มบ้านปู พร้อมยกระดับโซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนแบบครบวงจร (Total Solutions) ให้มีความหลากหลายและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เพื่อรองรับเมกะเทรนด์ Net-Zero และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกองค์กรที่ต้องการพิชิตเป้าหมายการลดคาร์บอน
แนวทางการดำเนินธุรกิจที่บ้านปู เน็กซ์ให้ความสำคัญมี 2 เรื่อง ได้แก่ การมุ่งขยายพอร์ตฟอลิโอทุกธุรกิจโดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบ้านปู เน็กซ์ดำเนินธุรกิจอยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ ไทย จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย อีกทั้ง เข้าลงทุนในบริษัทชั้นนำ และร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจพลังงานสะอาดของบ้านปู เน็กซ์
ขยายพอร์ตฟอลิโอทุกธุรกิจ โดยเฉพาะในต่างประเทศ
ในปีที่ผ่านมา บ้านปู เน็กซ์ ได้ขับเคลื่อนทั้ง 5 ธุรกิจให้เติบโตและมีความเคลื่อนไหวทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น และขยายพอร์ตโซลาร์รูฟท็อปและลอยน้ำในประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ปัจจุบันวางกำลังผลิตรวมกว่า 1,010 เมกะวัตต์ ธุรกิจแบตเตอรี่ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทย พร้อมขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ที่โรงงานในประเทศจีน เพื่อบรรลุเป้าหมายประมาณ 4 กิกะวัตต์ชั่วโมง ภายในปี 2568
ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า ขยายการซื้อขายไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ธุรกิจอี-โมบิลิตี้ นำบริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจร หรือ Mobility as A Service (MaaS) และการบริหารการเดินทางและขนส่งด้วยยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Management) ไปส่งเสริมการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ และขยายทุกบริการภายใต้ MaaS ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีจุดบริการไรด์ แชร์ริ่ง 2,500 จุด, คาร์ แชร์ริ่งกว่า 1,500 จุด, สถานีชาร์จกว่า 300 สถานี และจุดบริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า 20 แห่ง ธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน ได้ขยายฐานลูกค้าโครงการสมาร์ทซิตี้ และระบบจัดการพลังงานในหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีลูกค้า 20 โครงการ
เข้าลงทุนในบริษัทชั้นนำ พร้อมผนึกพันธมิตรรายใหญ่
ล่าสุดบริษัทลงทุนในบริษัท อัลโต้เทค โกลบอล เทคสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มจัดการพลังงานด้วย AI และ IoT เพื่อต่อยอดธุรกิจระบบจัดการพลังงาน รวมถึง Solar Esco ผู้นำธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม ขยายบริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจรในเวียดนาม พร้อมกันนี้ยังลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อต่อยอดโซลูชันพลังงานสะอาดให้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยร่วมกับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ และดูราเพาเวอร์ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทย รุกตลาด e-Bus และ EV ทั่วเอเชียแปซิฟิก จับมือแพลนเน็ตคอมฯ ขยายบริการสมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์ม รองรับดีมานด์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต่อยอดความร่วมมือกับเอสพี กรุ๊ป นำบริการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling Systems) มาเสริมบริการระบบจัดการพลังงานให้ครบวงจรตอบความต้องการลูกค้าหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
“เรามองตัวเองเป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาว (Long-term partner) ด้านพลังงานสะอาด ที่ช่วยสนับสนุนให้ทุกองค์กรเข้าถึงพลังงานสะอาดได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และสร้างความคุ้มค่าให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมขยายฐานลูกค้าทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก สำหรับในประเทศไทย เตรียมติดตั้งระบบโซลาร์ และให้บริการ EV Fleet Management ในหลายธุรกิจชั้นนำ โดยเรามุ่งมั่นจะก้าวเป็น Net-Zero Energy Provider ที่องค์กรชั้นนำทั่วภูมิภาคไว้วางใจ”