Site icon Thumbsup

DAAT เผยข้อมูลทิศทางภาพรวมธุรกิจโฆษณาดิจิทัล ปี 2557-2558 ระบุเม็ดเงินปี 2557 สูงเกินคาด

daat1

สมาคมโฆษณาดิจิทัล(ประเทศไทย) DAAT ร่วมกับ ทีเอ็นเอส บริษัทวิจัยชั้นนำเผยผลสำรวจมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของปี 2557-2558 โดยผลการสำรวจพบว่า งบโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่ารวมกว่า 6,115 ล้านบาทเติบโตขึ้นจากปีก่อน 44% หรือเทียบเท่า 4,248 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 33% ในปี 2558 โดยเฉพาะในส่วนของสื่อวิดีโอและ Facebook มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแทนที่โฆษณาดิสเพลย์

แม้ว่าอัตราการเติบโตของงบโฆษณาดิจิทัลของปี 2558 มีการคาดการณ์ว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ โดยคาดว่าสัดส่วนโฆษณาดิจิทัลจะอยู่ที่ 6-7% เมื่อเทียบกับโฆษณาโดยรวมทั้งหมด ทั้งนี้อัตราส่วนดังกล่าวยังถือว่าต่ำหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น อาทิ สหรัฐอเมริกาที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 30% ออสเตรเลีย 30% จีน 20% ทำให้เชื่อว่าสัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 20% ได้ในอนาคตโดยผลสำรวจพบว่าหากเม็ดเงินโฆษณาในปี 2558 เป็นไปตามคาดการณ์ จะส่งผลให้ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลขยายขึ้นเท่าตัวในระยะเวลาเพียง 3 ปีระหว่างปี 2556-2558

หากมองถึงประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม ปี2557 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้งบโฆษณากับสื่อดิจิทัลมากที่สุด คือ กลุ่มสื่อสารที่ 884 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มยานยนต์ 695 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 424 ล้านบาท กลุ่มการเงินและธนาคาร 259 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม 231 ล้านบาทโดยเม็ดเงินจากกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเพิ่มมูลค่าสูงที่สุดด้วยเช่นกัน

นรสิทธ์ สิทธิเวชวิจิตร กรรมการสมาคมโฆษณาดิจิทัล ชี้แจงว่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของปี 2557 เกิดจากการได้รับอิทธิพลมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เพิ่มมูลค่างบโฆษณาดิจิทัลสูงสุด คือเพิ่มขึ้นกว่า 502 ล้านบาท เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันและสารหล่อลื่นเกิดการเติบโตในแง่การใช้งบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ70 เท่า  และการขยายตัวดังกล่าวยังทำให้กลุ่มน้ำมันและสารหล่อลื่นติดอันดับสามในห้าอันดับอุตสาหรรมที่มีการเพิ่มขึ้นของมูลค่างบโฆษณาดิจิทัลสูงสุด นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ที่หันมาใช้งบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย

ทั้งนี้แนวโน้มที่เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลจะปรับตัวสูงขึ้นอีก 33% (คิดเป็นมูลค่าราว 8,134 ล้านบาท) โดยผลสำรวจดังกล่าวยังพบว่า 75% ของเอเยนซี่ที่ให้บริการด้านสื่อดิจิทัลต่างคาดการณ์เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกันว่าลูกค้าจะมีการใช้จ่ายงบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30%ในปี 2558 ซึ่งคาดการณ์ว่าภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในปี 2558 จะยังคงอยู่ภายใต้อิทธิพลของอุตสาหกรรมหลักที่มีการใช้จ่ายงบโฆษณาดิจิทัลในปีที่ผ่านมา ยกเว้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้จ่ายลดลงจาก 173 ล้านบาทลงเหลือ 116 ล้านบาท จนไม่ติดหนึ่งใน 15 ของกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะใช้จ่ายมากที่สุดในปีนี้

ในแง่การเติบโตของปี 2558 กลุ่มอุตสาหกรรมการสื่อสารยังคงมีแนวโน้มใช้จ่ายงบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้นสูงสุด ตามด้วยอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดว่าจะยังมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีการเติบโตในแง่การใช้งบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ กลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง และอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งเดิมไม่ได้ใช้งบโฆษณากับสื่อดิจิทัลมากนักและเป็นที่น่าสังเกตุว่ากลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ หันเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น เห็นได้จากเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ที่ 10-70 เท่าตัวในปี 2557 เช่นเดียวกับปี 2558 ที่ผลสำรวจระบุว่ามีกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ เริ่มหันมาลงทุนกับสื่อดิจิทัลมากขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง สินค้าเบ็ดเตล็ด และ องค์กรของรัฐบาลหรืองานประกาศชุมชน ตามลำดับ

นอกจากนี้สมาคมฯ และทีเอ็นเอส ยังได้สำรวจตัวเลขของโฆษณาดิจิทัลตามประเภทของการใช้สื่อออนไลน์ โดยผลสำรวจพบว่าโฆษณาออนไลน์ประเภทดิสเพลย์ (Display) ยังคงเป็นรูปแบบการใช้จ่ายที่ครองส่วนแบ่งงบโฆษณาดิจิทัลสูงสุดในปี 2557 แต่มีสัดส่วนลดลงจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยมีส่วนแบ่งงบโฆษณาดิจิทัลของ Facebook และ วิดีโอออนไลน์ เพิ่มเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Facebook ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 6% ในปี 2556 มาเป็น 16% ก่อนแนวโน้มการเติบโตอย่างทรงตัวมากขึ้นในปี 2558 นี้ตามด้วย วิดีโอ เพิ่มขึ้นจาก 11.1% เป็น 14% และ Instant Messaging ซึ่งเป็นรูปแบบการโฆษณาใหม่ที่เพิ่งมีการรวบรวมเข้ามาใหม่ในปี 2557 นี้แต่กลับครองสัดส่วนถึง 3.6% ของงบโฆษณาดิจิทัลโดยรวมในปี 2557 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามูลค่าการใช้จ่ายงบโฆษณาดิจิทัลผ่านวิดีโอออนไลน์มีการเติบโตอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่การใช้จ่ายผ่าน Facebook นั้นเติบโตก้าวกระโดดตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกและปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี

ศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การสำรวจมูลค่าโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทย ในครั้งนี้ได้จัดทำขึ้นเป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยในปีนี้สมาคมฯ ได้พิจารณายกระดับการจัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความถูกต้องแม่นยำและน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยร่วมมือกับ ทีเอ็นเอส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในการเพิ่มระเบียบในการจัดเก็บข้อมูล อีกทั้งยังพิจารณาจัดทำสำรวจความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพิ่มเติมเข้าในรายงาน เพื่อตอบสนองความต้องการข้อมูลอ้างอิง ที่จะเป็นประโยชน์แก่การวางแผนจัดสรรงบประมาณโฆษณาของนักการตลาด เอเยนซี่และผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ สมาคมฯ เชื่อว่า ข้อมูลสนับสนุนที่ดี จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลเติบโตขึ้นไปอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานสื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของผู้บริโภค

มาร์ติน คัลเลนเบิร์ก ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์ดิจิทัล ทีเอ็นเอส ประเทศไทย กล่าวว่าในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัย และวิเคราะห์แนวโน้มด้วยหลากหลายเครื่องมือการวิจัยระดับโลก เพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกที่พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ทีเอ็นเอสไม่เพียงเข้ามามีส่วนร่วมกับสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลในเมืองไทย แต่ยังต่อยอดการพัฒนาข้อมูลเชิงลึก โดยผลสำรวจเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในปีนี้ได้จัดทำขึ้นในมิติที่หลากหลายและแตกต่างไปจากปีที่ผ่านมา จากรูปแบบการทำวิจัยทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพควบคู่กัน พร้อมทั้งรายงานฉบับเต็มที่พร้อมให้ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ tnsglobal.com/thailand-digital-ad-spend-report

กี่ยวกับสมาคมฯ

สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ Digital Advertising Association (Thailand) (DAAT) ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2555 โดยมีวัตถุประสงค์หลักของสมาคมคือ เพื่อเผยแพร่คุณค่าของงานโฆษณาดิจิทัล, เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายความต้องการของงานโฆษณาดิจิทัล, และสร้างความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิก รวมทั้งเพิ่มพูนมาตราฐาน ข้อกำหนดต่างๆ ในวิชาชีพของการโฆษณาดิจิทัล

ปัจจุบันมีสมาชิกของสมาคมฯ รวม 41 บริษัท สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ ณ เลขที่ 2 อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ ชั้น G ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 และเว็บไซต์ของสมาคม www.daat.in.th

เกี่ยวกับทีเอ็นเอส                                                                           

ทีเอ็นเอส เป็นหนึ่งในบริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก ด้วยเครือข่ายสำนักงานในกว่า 80 ประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในงานวิจัยทางการตลาดเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจในหลากหลายด้าน อาทิ การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ การพัฒนานวัตกรรมสินค้า แบรนด์และการสื่อสารการตลาด การพัฒนาความสัมพันธ์ลูกค้าและพนักงานในองค์กร ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมวิจัยและโซลูชั่นด้านการวิจัยที่ได้รับการยอมรับทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ ทีเอ็นเอส เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทแคนทาร์ (Kantar) ซึ่งเป็นกลุ่มให้คำปรึกษา ข้อมูล และการวิเคราะห์เจาะลึกในเครือ WPP อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TNS ได้ทื่ www.tnsglobal.com