Site icon Thumbsup

ลือหนัก “เทเลนอร์” เตรียมส่งไม้ “ดีแทค” เข้าเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับกลุ่มทรูฯ

แม้ว่าจะมีข่าวลือหนาหูมาโดยตลอดเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มทรู กับ ดีแทค แต่ความชัดเจนเพิ่งปรากฏขึ้นเมื่อเทเลนอร์ กรุ๊ป บริษัทแม่ของดีแทคที่ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ว่า “ระหว่างดีแทคและกลุ่มทรูฯจะมีการดำเนินกิจการร่วมกันในรูปแบบอีโค พาร์ทเนอร์ ชิพ (EcoPartnership) และคาดว่าจะมีการแถลงความขัดเจนในวันที่ 22 พ.ย.นี้” ยิ่งกลายเป็นการตอกย้ำข่าวใหญ่ของวันนี้ (19 พย.64)

โดยจดหมายข่าวที่ระบุแจ้งออกมาทั้งสองค่ายโอเปอร์เรเตอร์ยักษ์ของไทยนั้น ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า บริษัทจะมีการชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ทราบต่อไป

 

เนื้อหาจดหมายจากดีแทค

นางสาวณภัทร ธัญญกุลสัจจา Head of Company Secretary Department บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ได้ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า หลังจากมีกระแสข่าวที่คาดการณ์ในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ขอเรียนให้ทราบว่า ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะได้รับการชี้แจงจากบริษัทตามที่กําหนดตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ให้ทราบต่อไป

เนื้อหาจดหมายจากกลุ่มทรูฯ

นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใจความระบุว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค นั้น บริษัทณ ขอเรียนแจ้งว่า หากมีข้อชี้แจงใดๆ ที่บริษัทฯ มีหน้าที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทจะแจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

สื่อนอกรายงาน เทเลนอร์-ซีพี เจรจาควบรวมกิจการ

ทั้งนี้ รอยเตอร์ได้ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับเทเลนอร์ของนอร์เวย์ที่มีการแถลงข่าวที่กรุงออสโลว่า กำลังหารือกับ บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อควบรวมกิจการโทรคมนาคมในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ แต่ยังมีการตกลงรายละเอียดในประเด็นสำคัญหลายด้านและไม่แน่ใจว่าการเจรจาครั้งนี้ สุดท้ายแล้วจะมีผลสรุปออกมาเป็นอย่างไร จึงยังไม่มีการเปิดเผยที่ชัดเจน

ทางด้านของมูลค่าการควบรวมกิจการที่กำลังมีการหารือนั้น มีมูลค่าอยู่ที่ 7,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

หากมีการรวมกิจการขึ้นจริงจะทำให้ลูกค้าในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งสองรายรวมกันเกือบ 51 ล้านราย แบ่งเป็น ลูกค้ากลุ่มทรูฯ 31.7 ล้านราย ประกอบด้วยลูกค้าเติมเงิน 21.2 ล้านราย รายเดือน 10.8 ล้านราย ลูกค้าดีแทค 19.3 ล้านราย แบ่งเป็นรายเดือน 6.2 ล้านราย เติมเงิน 13.1 ล้านรายในขณะที่เอไอเอสผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมเบอร์หนึ่งของไทย มีลูกค้าอยู่ที่ 43.7 ล้านราย

 

ที่มา :

Reuters

กรุงเทพธุรกิจ

ประชาชาติธุรกิจ

ไทยรัฐออนไลน์

ผู้จัดการออนไลน์