Site icon Thumbsup

ebay เผยเทรนด์ช้อปออนไลน์ทั่วโลกยังโต พร้อมเปิดโครงการ “eBay NextGen” หนุนธุรกิจ SMEs

เพราะเดินทางไม่ได้ คนส่วนใหญ่จึงยังสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันจนคุ้นชินและกลายเป็นช่องทางการขายสำหรับแบรนด์ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ทั่วโลก รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะขายสินค้าให้แก่คนทั่วโลกและเป็นโอกาสที่ใหญ่มากด้วย อีเบย์ (eBay) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกเผยตัวเลขที่น่าสนใจ

สินค้าขายดีจากไทย คือ จิวเวลรี เพชรพลอย นาฬิกา ตามด้วยอะไหล่ยนต์-อุปกรณ์ตกแต่งรถ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม จึงเปิดตัวโครงการ “eBay NextGen” มุ่งส่งเสริมให้คนไทยเปิดร้านบน eBay.com ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยสิทธิพิเศษสามารถลงขายสินค้าในหมวดหมู่ขายดีราคาสูงพร้อม Selling Limit ที่เพิ่มให้พิเศษ 300 เท่าทันที และสิทธิประโยชน์มากมาย

นางรินทร์ลิตา ศรีโรจนภิญโญ หัวหน้าฝ่ายการตลาด อีเบย์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับภัยโควิด-19 อยู่นั้น ผู้คนอยู่ในบ้านมากขึ้น การเลือกซื้อของออนไลน์เป็นสิ่งหนึ่งที่คนหันมาให้ความสนใจมากขึ้น ส่งผลให้ตลาด อีคอมเมิร์ซทั่วโลกกลับมีศักยภาพการเติบโตอย่างทวีคูณ ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2564 อีเบย์มีผู้ซื้อทั่วโลกมากกว่า 159 ล้านคน มีผู้ขายกว่า 19 ล้านคนลงขายสินค้ามากกว่า 1,500 ล้านรายการ

โดยมียอดการใช้จ่ายมากกว่า 22,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 730,000 ล้านบาท และเรายังพบว่าความต้องการสินค้าเฉพาะกลุ่มในอีเบย์นั้น เพิ่มขึ้นสูงมาก ในปีที่ผ่านมา สินค้าขายดีและมีมูลค่าสูงที่สุดบน eBay ทั่วโลก ประกอบด้วย การ์ดสะสม เช่น การ์ดกีฬา การ์ดเกม และการ์ดโปเกมอน ที่มีการขายไปแล้วมากกว่า 45 ล้านใบในปี 2563 ด้วยอัตราการขายออกสูงถึงกว่า 90 ใบในหนึ่งนาที

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าที่กำลังติดเทรนด์ขายดีได้แก่ กลุ่มอะไหล่ยนต์ อุปกรณ์วิดีโอเกม รองเท้าผ้าใบ และของสะสมลักซ์ชัวรี ผู้ขายไทยยังคงขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องบนอีเบย์ เรายังมองเห็นโอกาสของผู้ขายไทยที่สามารถตอบรับความต้องการของตลาดได้ สำหรับสินค้าจากประเทศไทยที่ขายดีตลอดกาล ได้แก่

  1. จิวเวลรี เพชรพลอย นาฬิกาหรู
  2. อะไหล่ยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์
  3. สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม

และเมื่อเราลองศึกษาให้ลึกลงไปในปี 2564 นี้ เรามองเห็นเทรนด์ 5 กลุ่มสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้แก่

  1. อะไหล่รถจักรยานยนต์
  2. จิวเวลรีแบบมีพลอยประดับ หรือมีตัวเรือนเป็นเนื้อเงิน เนื้อทองคำ
  3. เพชรแบบเป็นเม็ดที่มีใบรับรอง
  4. ผลิตภัณฑ์ดูแลและจัดแต่งเส้นผม
  5. ต้นไม้ตกแต่งบ้าน

โดยทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นที่นิยมในตลาดที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายมากกว่า ร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว โดยทั้งหมดได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย การเปิดโครงการ “eBay NextGen” จะช่วยให้ผู้สนใจขยายธุรกิจไปต่างประเทศ แต่ยังไม่เคยขายบนอีเบย์มาก่อน ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ พร้อมรับสิทธิพิเศษที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและขยายสู่ตลาดโลก ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่งในช่วงต่อจากนี้

โครงการ “eBay NextGen” คือโครงการที่ออกแบบมาสำหรับผู้ขายใหม่อย่างแท้จริง พร้อมเปิดโอกาสให้กับเอสเอ็มอีไทยที่ยังไม่เคยค้าขายบนอีเบย์ ได้มีโอกาสขยายตลาดสู่แพลตฟอร์มอีเบย์ซึ่งมีผู้ซื้อกว่า 159 ล้านคนทั่วโลกได้โดยง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ขายรายใหม่ พร้อมแนะนำตั้งแต่เริ่มเปิดบัญชีจนถึงการลงขายสินค้าชิ้นแรกบนอีเบย์ พร้อมกันนี้ ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่มีทะเบียนพาณิชย์ (กิจการเจ้าของคนเดียว) หรือเป็นบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด และมีหนังสือรับรองนิติบุคคล ดังต่อไปนี้

ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ “eBay NextGen” ซึ่งเปิดรับผู้ประกอบกิจการทุกขนาด จากทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย และผู้ขายปลีกทั้งร้านค้าออนไลน์ และร้านค้าออฟไลน์ประเภทนิติบุคคล หรือผู้ที่มีทะเบียนพาณิชย์ที่ยังไม่เคยค้าขายบนอีเบย์ สมัครเข้าร่วมโครงการหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ebaythailand.co.th/eBayNextGen ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2564 ถึง 30 พฤศจิกายน 2564

“เราให้ความสำคัญกับการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าที่เปี่ยมด้วยพลังเทคโนโลยีแบบเน็กซ์เจน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การซื้อและขายสินค้าบนอีเบย์ให้ได้มากที่สุด เราจะยกระดับการให้บริการระบบการชำระเงินแบบใหม่ของอีเบย์ ที่มีชื่อว่า อีเบย์แมเนจเพย์เมนต์ “อีเบย์เอ็มพี” (eBay Managed Payment หรือ eBay MP) ให้กับผู้ใช้ของเราทั่วโลก เพื่อให้ผู้ซื้อมีช่องทางชำระเงินมากขึ้น และเป็นศูนย์รวมให้ผู้ขายจัดการการขายและรับชำระค่าสินค้าได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว

ซึ่งข้อมูลสิ้นสุด ณ ไตรมาสที่สองของปี 2564 แสดงให้เห็นว่า มีผู้ขายกว่า 13 ล้านคนรวมถึงผู้ขายชาวไทยส่วนใหญ่ ได้เปลี่ยนระบบมาใช้งาน “อีเบย์เอ็มพี” แล้ว และกว่าร้อยละ 80 ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลกที่ผ่านแพลตฟอร์ม ก็ดำเนินการผ่านระบบ “อีเบย์เอ็มพี” ซึ่งช่วยผู้ขายลดปัญหาจากการที่ผู้ซื้อค้างชำระค่าสินค้า โดยนับตั้งแต่ใช้งาน “อีเบย์เอ็มพี” เป็นต้นมา ร้อยละ 99 ของการซื้อขายแบบกำหนดราคาตายตัวได้รับการชำระก่อนจัดส่ง”