Site icon Thumbsup

เพิ่มขีดความสามารถในการลงโฆษณาบน Facebook ด้วย Custom Audience

การลงโฆษณาบน Facebook ข้อดีอย่างหนึ่งคือเราสามารถ Target หรือตั้งกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการแสดงโฆษณาได้ ไม่ว่าจะเป็นการระบุรายละเอียดพื้นฐานอาทิเช่น สถานที่ เพศ อายุต่างๆ และลงระดับที่ลึกลงไปมากขึ้นนั่นก็คือความสนใจของกลุ่่มเป้าหมาย แต่ยังมีการระบุกลุ่มเป้าหมายอีกประเภทหนึ่งที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีฐานข้อมูลของลูกค้าอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า “Custom Audience”

หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นคำว่า “Custom Audience” แสดงขึ้นมาในขณะที่เราต้องการลงโฆษณาบน Facebook บางท่านอาจมีโอกาสได้ลองใช้แล้ว แต่ถ้ายังไม่เคยลองใช้ วันนี้เราจะมาแนะนำว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไรกัน

Facebook เปิดโอกาสให้บริษัทที่มีลิสต์อีเมล, เบอร์โทรศัพท์มือถือของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าเรา สามารถนำมาอัพโหลดและตรวจสอบได้ว่าใครนำลิสต์เหล่านั้นมาสมัครใช้บริการ Facebook อยู่บ้าง ถ้าเป็นลิสต์ที่ตรงกับการสมัครใช้ Facebook เราสามารถลงโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้โดยตรง โดยการอัพโหลดไฟล์นั้นก็ง่ายๆ ให้จัดทำลิสต์ของอีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือในรูปแบบของ .CSV หรือ .txt ไฟล์ หรือ ถ้าใครมีฐานข้อมูลอยู่กับระบบของ Mail Chimp ก็สามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลเหล่านั้นอัพโหลดมาไว้ที่นี่ได้ อย่างไรก็ตามระบบของ Facebook จะทำการตรวจสอบลิสต์ข้อมูลให้เป็นกลุ่ม แต่จะไม่มีการระบุให้เป็นรายบุคคลว่าใครใช้อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวในการสมัครนะคะ อาทิเช่น เราอาจจะอัพโหลดเข้าไป 100,000 อีเมล แต่ Facebook จะแจ้งเป็นภาพรวมว่าจากลิสต์อีเมลดังกล่าวมีผู้ใช้ Facebook เป็นจำนวนกี่รายเป็นต้น อย่างไรก็ตามเพื่อความมีประสิทธิภาพในการลงโฆษณา (ไม่ Target แคบจนเกินไป) ยังแนะนำว่าลิสต์ของข้อมูลดังกล่าวควรมีปริมาณมากพอ เป็นหลักพันขึ้นไป เป็นต้น

นอกจากนี้เรายังสามารถทำ Remarketing ได้ คือใครที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรามาก่อน เช่น เว็บไซต์ขายของ เว็บไซต์โรงแรม เราสามารถสร้าง Custom Audience จากคนที่เข้าเว็บไซต์ของเรามาก่อนได้ เมื่อคนเหล่านั้นออกจากเว็บไซต์ของเรา เมื่อมาใช้งานผ่าน Facebook จะได้เห็นโฆษณาของเราแสดงที่หน้า Facebook ด้วย โดยเริ่มต้นต้องทำการสร้าง Web Remarketing Pixel ไปติดที่เว็บไซต์ของเราก่อน แม้การทำ Remarketing ของ Custom Audience จะดูคล้ายกับ Facebook Exchange (FBX) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีลักษณะที่แตกต่างกันคือ FBX จะเหมาะกับผู้ลงโฆษณาที่มีสินค้ามากมายและต้องการลงโฆษณายังกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายซับซ้อนกว่า ในขณะที่บริษัทขนาดกลางลงมาที่ลงโฆษณาเอง ไม่ได้ทำงานร่วมกับ 3rd parties แค่ต้องการโฟกัสให้แสดงโฆษณากับกลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของตน ก็เหมาะจะใช้โซลูชั่นนี้

 

หลายคนอาจคิดว่าถ้ามีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ดูท่าทางจะมีประโยชน์แน่เลย อย่าลืมค่ะ Facebook ก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือเครื่องมือหนึ่ง เฉกเช่น เดียวกับการทำ Email-Marketing การจะเพิ่มโอกาสให้เกิด Lead/Conversion เช่น การซื้อขายมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลและการออกแบบฐานข้อมูลของบริษัทแล้วว่าเรานำข้อมูลเหล่านั้นมาจากที่ใด มีการ Segment เป็นกลุ่ม prospect หรือเป้าหมายมาก่อนหน้านี้หรือไม่ นอกจากนี้คนส่วนใหญ่มักสมัครบริการ Facebook ด้วยอีเมลส่วนตัวเสียเยอะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีในฐานข้อมูลของคุณด้วยหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้จึงจะเป็นตัวบอกว่าการใช้งาน Custom Audience นั้นจะคุ้มค่ากับธุรกิจของคุณมากน้อยแค่ไหนนะคะ

อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Custom Audience สามารถอ่านได้ที่นี่

ที่มาภาพ : stream20