Site icon Thumbsup

Facebook เปิดแคมเปญยักษ์ชุดแรกของ Facebook Live

unspecified_1477071883

แม้จะเปิดบริการมานาน แต่ Facebook มองว่ายังมีผู้ใช้ที่รู้จักบริการถ่ายทอดสด Facebook Live ไม่มากพอ แคมเปญยักษ์เพื่อโชว์ตัว Facebook Live สู่สาธารณชนจึงเกิดขึ้น ตอกย้ำความเป็น “top priority” หรือธุรกิจหลักที่บริษัทให้ความสนใจอันดับ 1 ของ Facebook Live อย่างชัดเจน

ความน่าสนใจของข่าวนี้คือการใช้เงินซื้อสื่อออฟไลน์เพื่อโปรโมท Facebook Live ของเจ้าพ่อเครือข่ายสังคม เม็ดเงินมหาศาลถูกเทเพื่อให้ผู้คนที่โดยสารรถไฟหรือผู้เดินทางด้วยรถสาธารณะ ได้รับรู้ว่า Facebook Live สามารถนำมาใช้ถ่ายทอดเรื่องราวหลากหลายในชีวิตประจำวันได้อย่างน่ารัก

วิดีโอโฆษณาของ Facebook Live เริ่มต้นด้วยเอกลักษณ์เดียวกันคือภาพตัวเลขนับถอยหลัง “3, 2, 1” ก่อนจะตามมาด้วยวิดีโอเก๋ไก๋ไม่ซ้ำกันนับร้อยเรื่องราว หนึ่งในเรื่องราวนั้นคือวิดีโอถ่ายทอดสดภาพหนูน้อยทำตาโตเมื่อถูกตัดผมครั้งแรก วิดีโอโชว์สุนัขที่เพิ่งตัดขนใหม่ในทรงหมีเท็ดดี้ และวิดีโอโชว์ความประหลาดใจของคุณหนูเมื่อเห็นการทำงานของของเล่นชิ้นใหม่

Rebecca Van Dyck รองประธานบริษัทฝ่ายการตลาด Facebook ให้ข้อมูลว่าแคมเปญนี้ครอบคลุมพื้นที่สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรก่อนประเทศอื่น จุดประสงค์คือการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากกลับบ้านไปถ่ายทอดสดเหตุการณ์รอบตัวเองให้เพื่อนฝูงชม จุดนี้เป็นเพราะการสำรวจของ Facebook พบว่าขอเพียงให้ผู้ใช้ทราบถึงความสามารถของ Live เมื่อนั้นผู้ใช้ก็จะพยายามทดลองใช้งานดูด้วยตัวเอง

สำหรับคอนเทนต์วิดีโอในแคมเปญนี้ ทุกวิดีโอและทุกภาพถ่ายล้วนถูกถ่ายด้วยคุณสมบัติ Facebook Live จากโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเสียงบรรยายหรือ dialogue ใด จุดนี้ทีมผู้สร้างวิดีโอมีการนำวิดีโอบางส่วนมาจากผู้ใช้ Facebook Live ตัวจริงที่ตั้งค่า ‘public’ ให้สาธารณชนสามารถคลิกชมวิดีโอสดนั้นได้ แน่นอนว่ามีการขออนุญาตนำวิดีโอไปใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว

นอกจากการซื้อบิลบอร์ดดิจิทัลให้ผู้สัญจรไปมาได้ชม Facebook ยังมีแผนโฆษณา Live ผ่านรายการทีวี รายงานระบุว่าเนื้อหาของโฆษณาทีวีจะยังยึดแผนเดิมของ Facebook เรื่องการเลือกดึงเอาช่วงเวลายอดเยี่ยมจากวิดีโอของผู้ใช้ตัวจริงมาตัดต่อเรียงร้อยเป็นวิดีโอโฆษณาทีวี จุดนี้เป็นผลต่อยอดจากคุณสมบัติแผนที่ Facebook Live Map ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถเลือกชมวิดีโอสดจากทุกมุมโลกได้

น่าเสียดายที่ไม่มีรายงานงบประมาณซื้อสื่อของ Facebook ที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าจะเป็นจำนวนเงินไม่น้อยทีเดียว

ที่มา: Adage