Site icon Thumbsup

สำรวจการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กวัยผู้ใหญ่ในอเมริกา ชี้ Facebook ตายยาก

ช่วงปลายปีที่แล้ว เราได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับอัตรการเจริญเติบโตของ Facebook ในอเมริกา และการเสื่อมความนิยมในกลุ่มเด็กวัยรุ่น วันนี้เลยมีผลสำรวจผู้ใช้งานวัยผู้ใหญ่ (ในอเมริกา) จาก Social Times มานำเสนอ เพื่อดูว่า Facebook กำลังจะถึงจุดตก จริงหรือไม่ 

ถ้าพูดถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ได้รับความนิยมสูงสุด ก็คงหนีไม่พ้น Facebook โดยพบว่าประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ชอบออนไลน์มีมากถึง 81% และในจำนวนนี้ มีผู้ใช้งาน Facebook ถึง 71%

OK

ในขณะที่ Facebook กำลังได้รับความนิยมสูงสุด การเติบโตของ Facebook เริ่มจะชะลอตัวลง  เนื่องจากผู้ใช้งานกลุ่มนี้เริ่มจะหันไปใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ มากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่า Facebook โตมากซะจนโตมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว มันอาจจะมาถึงจุดอิ่มตัว แต่ไม่ใช่จุดที่จะเสื่อมถอยแน่นอน

ในรายงานดังกล่าวอธิบายว่า จำนวนผู้ใหญ่ที่ใช้งาน Facebook ไม่เปลี่ยนแปลงเลย นับตั้งแต่การสำรวจครั้งก่อนในปี 2013 แต่กลุ่มที่ใช้งานทุกวันลดลง จาก 70% กลายเป็น 63% แม้ว่าผู้ใช้งานเกือบครึ่งยังคงเข้ามาใช้งาน Facebook มากกว่า 1 ครั้งต่อวัน

สำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ มีผู้ใช้งานประเภท Active user ลดลง โดย Twitter มีผู้ที่เข้าไปใช้งานทุกวัน 36% ลดลง 10% ในขณะที่เครือข่ายหาคนทำงานอย่าง LinkedIn มี active user เพียง 13% เท่านั้น ส่วนยอดผู้ใช้งานโดยรวมที่มีการเข้าไปใช้งานสัปดาห์ละครั้งหรือน้อยกว่านั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้น

สิ่งที่น่าสนใจคือ ประชากรวัยผู้ใหญ่ในอเมริกาเริ่มจะมีการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กที่หลากหลายมากขึ้น คือไม่ได้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น จากรายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่ามากกว่าครึ่งของกลุ่มตัวอย่างจะใช้ตั้งแต่ 2 แพลทฟอร์มหรือมากกว่านั้น

และ Facebook ก็ยังได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มคนเลือกใช้งานแค่ 1 แพลทฟอร์ม อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า หลายๆ คนที่ใช้ Facebook ก็จะใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ด้วย

ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใหญ่จำนวน 19% ใช้ Twitter โดยในจำนวนนี้ 91% ก็ใช้งาน Facebook ด้วย ในขณะที่ LinkedIn มีผู้ใช้งาน 23% และในจำนวนนี้ 86% ใช้งาน Facebook ควบคู่ไปด้วย ซึ่งก็อาจจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าขณะนี้ Facebook ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้งานวัยผู้ใหญ่ ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าเป็นขาลงของ Facebook ในอเมริกาก็อาจจะไม่ถูกต้องเท่าไรนัก แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นการเสื่อมความนิยมเฉพาะในหมู่เด็กวัยรุ่นน่าจะถูกต้องกว่า