Site icon Thumbsup

Facebook ร่วมผนึกกำลังเพื่อผลักดันธุรกิจ E-Commerce

Facebook ได้ร่วมผนึกกำลังกับผู้ประกอบการ E-Commerce เพื่อเปลี่ยน Facebook pages เป็นศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่เต็มไปด้วยแรงกระตุ้นจากคำแนะนำจากเพื่อนๆ ที่ ?ชอบ? ที่จะซื้อ

Facebook ได้พยายามที่จะดึงดูดบริษัทต่างๆ เช่น สายการบิน เดลต้า (DAL) และ J.C. Penney (JCP) เพื่อขายสินค้าบนหน้า Facebook page ของตัวเองและเปลี่ยนผู้ใช้ มากกว่า 500 ล้านคน ไปสู่ผู้ซื้อออนไลน์ นอกจากนี้ David Fisch ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Facebook ได้สร้างกลุ่มหุ้นส่วนในธุรกิจ E-Commerce กว่า 20 บริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ค้าปลีกตั้งร้านค้าบนหน้าเว็บและสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้เว็บโต้ตอบในขณะที่มีการซื้อขายอีกด้วย


Facebook เพิ่มฟีเจอร์ของ e-commerce เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้อยู่ในระบบนานขึ้น และสร้างยอดขายโฆษณาเพิ่มขึ้น ความพยายามของ บริษัท อาจหันมาเป็นทางเลือกช้อปปิ้งออนไลน์ไปยังร้านค้าปลีกเช่นอีเบย์ (EBAY), Sucharita Mulpuru นักวิเคราะห์จาก Forrester Research (FORR) กล่าวว่า?”มันยังไม่ใช่เรื่องปกติ ที่ผู้คนจะเข้ามา Facebook เพื่อที่จะซื้อของ แต่มันไม่ขั้นตอนที่ไกลจนเกินไป”
ทีมงานของ Fisch ถูกจัดตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจเกมและสื่อ”ท้ายที่สุดแล้วความรับผิดชอบอยู่ในทีมของผมในการพิสูจน์เราสามารถสร้างจำนวนมากที่มีค่าสำหรับผู้ใช้ และเราหวังที่จะเห็นนวัตกรรมที่หลากหลายมากขึ้น” Fisch กล่าว

เปลี่ยนหน้า Pages ให้เป็นหน้าร้าน

อีกจุดเริ่มต้นหนึ่งที่ช่วยผู้ค้าปลีกในการขายสินค้าผ่าน Facebook นั่นคือ Payvment ซึ่งทำ Software ที่ช่วยเปลี่ยน Facebook pages ให้เป็นหน้าร้านขายของที่รับชำระด้วยบัตรเครดิตหรือบริการชำระเงินออนไลน์ของ Paypal

Payvment เริ่มต้นด้วยผู้ค้าปลีกใน Facebook จำนวน 250 รายต่อวัน ซึ่งได้เพิ่มขึ้น 42% ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และปัจจุบันได้มีผู้ขายที่ใช้ Payvment มากกว่า 40,000 ราย และมีการซื้อขายสินค้ามากกว่า 750,000 ชิ้น ได้แก่เครื่องสำอางจากธรรมชาติ เครื่องประดับแฮนเมด เสื้อยืด ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม Facebook ยังเป็นศูนย์กลางการซื้อขายที่ไม่ใหญ่นัก โดยผู้ขายปลีกที่ใช้ Alvenda ที่มียอดการซื้อขาย $100,000 ต่อเดือน คิดเป็นยอดขาย $1.16 ต่อวินาที เทียบกับยอดขาย $2,000 ต่อวินาทีของ E-bay นับว่ายังห่างไกลกันอยู่มาก

นักลงทุนคาดหวังที่จะเห็น Social Commerce เติบโตแบบก้าวกระโดด ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น?Eventbrite จัดโปรโมทกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่คลาสเรียนโยคะ จนไปถึงการสัมมนา โดยโปรโมทผ่านช่องทาง Facebook และ Twitter เพื่อชักจูงลูกค้าไปยังเวปไซต์ของตัวเองและปิดการขาย ด้วยวิธีนี้ บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 20ล้านเหรียญ ในเดือนตุลาคม

ในเดือนที่ผ่านมา Payvment ได้รับการสนับสนุนร่วมทุนจาก Sierra Venture เป็นจำนวน 6ล้านเหรียญ “เป้าหมายของเราคือการเป็นธุรกิจที่ใหญ่เทียบเคียงกับ eBay และ Amazon”?Vispi Daver ผู้บริหารของ Sierra Venture?กล่าวให้คำสัมภาษณ์?”Payvment ได้มีการเจริญเติบโตที่เหนือความคาดหมายอย่างมาก”

Payvment ยังอยู่ระหว่างการปรับแต่งรูปแบบทางธุรกิจ และยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดจากผู้ซื้อและผู้ขาย ในขณะที่ Alvenda คิดค่าบริการตั้งแต่ $5,000-$10,000 ต่อเดือน สำหรับการติดตั้งระบบหน้าร้านและค่าดูแลระบบ ส่วน eBay จะคิดค่าธรรมเนียมจากค่าโฆษณา การวางขายสินค้า และเมื่อสินค้าที่โฆษณาขายได้

เว็บไซต์ขายปลีกชั้นนำเชื่อมต่อกับ Facebook

แม้แต่เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ ยังต้องพึ่ง Facebook โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของเว็บไซต์ขายปลีกชั้นนำ รวมถึง eBay และ Amazon มีการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของตนเข้ากับ Facebook โดยผู้ที่ซื้อของบน Amazon สามารถเข้ามาในหน้า Facebook เพื่อดูคำแนะนำในการซื้อ โดยพิจารณาจากความชอบที่ผ่านมาของเพลงหรือภาพยนต์ที่ชอบ

เมื่อวันที่ 1 พย. ที่ผ่านมา eBay ออกโปรแกรม Group Gift เพื่อให้ผู้ใช้สามารถร่วมกันซื้อของสำหรับเป็นขวัญให้เพื่อน และแบ่งปันรายชื่อเพื่อนบน?Facebook ได้อีกด้วย “เรายังคงเพิ่มทางเลือกสำหรับระบบการซื้อของออนไลน์เข้ากับเครือข่ายทางสังคม แบ่งปันรายชื่อและหน้าเว็บอื่นๆของ eBay” Johnna Hoff โฆษกหญิงของ eBay กล่าว

“ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ร้อยละ 10-15 ของการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมในประเทศที่พัฒนาแล้วเกิดขึ้นผ่าน Facebook” Mike Fauscette นักวิเคราะห์ที่ บริษัท วิจัยไอดีซี กล่าว

ความเห็นผู้เขียน…

มองว่านี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันธุรกิจ E-Commerce ให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น และจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ขายปลีกรายย่อยได้มีเวทีที่จะโดดเด่นได้ง่ายขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน คนยังนิยมที่จะซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่โด่งดังและมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น eBay หรือ Amazon การใช้ Social Network มาสนับสนุนการขาย เพราะการซื้อขายระหว่างกัน หรือตัวช่วยในการตัดสินใจ เช่นคอมเม้นต์หรือ feedback จากคนที่เรารู้จักจริงๆ เชื่อว่าจะช่วยทำให้ผู้ซื้อมั่นใจในเว็บไซต์ดังกล่าวมากขึ้น

แหล่งที่มา businessweek