Site icon Thumbsup

iBeacon ถูกนำมาใช้กับ Super Bowl เพื่อการโฆษณา…

31beacon-web1-master675

หลังจากเคยนำเรื่องราวของ iBeacon มานำเสนอไปก่อนหน้านี้ เราต่างเข้าใจถึงความสามารถในการนำมันมาใช้เพื่อประโยชน์ต่างๆ โดยเฉพาะการบอกเล่าอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ที่โทรศัพท์ของคุณเข้ามาอยู่ในอาณาเขต และล่าสุดมันก็ถูกนำไปใช้กับการแข่งขัน Super Bowl แล้วครับ…

กีฬาอเมริกันฟุตบอลนั้น ถือได้ว่าเป็นกีฬาประจำชาติของคนสหรัฐฯ ก็ว่าได้ และแน่นอนว่าคนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมกันในทุกๆ สัปดาห์จนกระทั่งจะมีรอบชิงชนะเลิศหรือศึก Super Bowl ประจำปีนี้ในวันพรุ่งนี้แล้ว และเมื่อเป็นที่รวมของคนจำนวนมาก การโฆษณาสำหรับการแข่งขัน Super Bowl จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งของเม็ดเงินมหาศาล แต่รูปแบบของการโฆษณาเดิมๆ จะเปลี่ยนไป เมื่อมีการนำ iBeacon ซึ่งนำเอา Location Based มาช่วยให้รูปแบบการโฆษณามีประสิทธิภาพและดึงดูดมากขึ้น

เมื่อผู้เข้าชมการแข่งขัน เดินผ่านจุดที่มี iBeacon ซึ่งตั้งค่าให้แสดงข้อความบนสมาร์ทโฟน ยกตัวอย่างเช่น การแนะนำสินค้าอย่าง ช็อคโกแลตแบรนด์ยอดนิยมในร้านค้า หรือจะเป็นข้อความโปรโมทของที่ระลึกอย่างถ้วยรางวัลจำลองที่ควรค่าแก่การซื้อกลับบ้าน

ปัจจุบันตัวส่งสัญญาณที่เรียกกันว่า “Beacons” นี้ก็เตรียมที่จะติดตั้งอุปกรณ์ตัวนี้ลงไปที่ร้านค้าปลีกหลายร้อยร้านค้า และตามพื้นที่สาธารณะมากมายอีก ส่วนในพื้นที่สนามกีฬาอย่างสนามเบสบอลของทีมในลีก MLB จำนวน 24 ทีม ร้าน Macy, ร้านเสื้อผ้า American Eagle Outfitters รวมถึง Apple Store ก็มีการติดตั้งอุปกรณ์ iBeacon ไปมากกว่า 250 ร้านค้าแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทาง NFL เองก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่มีการโต้แย้งจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ที่เกิดจากการนำเอาข้อมูลของบุคคลไปใช้กับเทคโนโลยีนี้ว่า จะไม่มีการนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ ในขณะที่ระบบนี้เน้นการที่จะให้สิทธิประโยชน์ อย่างเช่นส่วนลดร้านค้า ข้อมูลที่มีประโยชน์ แก่ผู้ใช้งานเสียมากกว่า…

ความคิดเห็นของกองบรรณาธิการ: ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากในแง่ของการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณา เพราะจริงๆ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในการที่จะนำเรื่องของ Location มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพียงแต่ควรต้องคำนึงถึงเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งที่ประเทศสหรัฐฯ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ หากไม่สามารถหาคำอธิบาย หรือสิทธิประโยชน์ที่มากพอที่จะทำให้ผู้ใช้งาน ยินยอมในสิทธิการเข้าถึงตำแหน่งของผู้ใช้งาน อาจจะกลายเป็นเรื่องราวการฟ้องร้องในระยะย่าวก็ได้

แต่ในแง่ของการใช้งาน นี่ถือเป็นรูปแบบการประชาสัมพันธ์แบบ Proactive ซึ่งน่าจะทำให้เกิดการ Recognize จากผู้ใช้งานได้มากอยู่ทีเดียวล่ะครับ…

ที่มา: NYTimes