Site icon Thumbsup

Foursquare เพิ่มทุน 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าทำเงินได้จริง

fourOpen

แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จชัดเจนสำหรับ Business Model ของเครือข่ายสังคมนักเช็คอิน Foursquare แต่วันนี้ Foursquare ประกาศเพิ่มทุนอีก 41 ล้านเหรียญ โดยผู้บริหาร Foursquare ย้ำว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถพิสูจน์ตัวเองได้เร็วขึ้น ว่าสามารถทำรายได้ในตลาดออนไลน์โลกได้จริง

Foursquare นั้นเป็นบริการเครือข่ายสังคมที่ผู้ใช้จะสามารถ check-in หรือลงชื่อว่ากำลังอยู่ในสถานที่ใด ปรากฏว่า Foursquare ได้รับการเพิ่มทุนรอบใหม่อีก 41 ล้านเหรียญสหรัฐจากกลุ่มทุนหลายแห่งอย่าง Silver Lake Partners พร้อมด้วยแรงหนุนจาก Andreessen Horowitz, Union Square Ventures, Spark Capital และ O’Reilly AlphaTech Ventures ตามข้อมูลที่ Foursquare ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

แม้งบการเงินล่าสุดที่ Foursquare เคยประกาศไว้จะเต็มไปด้วยยอดเงินกู้และหนี้สินผันแปร แต่ Dennis Crowley (ในภาพ) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Foursquare ยืนยันว่าเป้าหมายของการเพิ่มทุนรอบใหม่อยู่ที่การพิสูจน์ตัวเองว่า Foursquare สามารถเติบโตและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดย Crowley ให้ข้อมูลว่า Foursquare กำลังมุ่งพัฒนาระบบเสิร์ชในท้องถิ่นหรือ local search อย่างที่ Google ทำกับการค้นหาเว็บไซต์ (web search) ซึ่ง Foursquare ยังมีงานหลายส่วนที่ยังดำเนินการไม่เสร็จ ทำให้บริษัทยังต้องใช้เวลาและเงินทุนในการพัฒนาอีกในอนาคต

หนึ่งในงานที่ Foursquare อ้างถึง คือการสร้างเครื่องมือเพื่อให้ธุรกิจในท้องถิ่นสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ ขณะเดียวกัน Foursquare จะมุ่งมั่นทำให้การค้นหาข้อมูลทำได้ดีขึ้น โดย Foursquare ย้ำว่ากำลังพัฒนาข้อมูลด้านสถานที่ออนไลน์ เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่ทุกบริษัทจะสามารถใช้พลังของข้อมูลสถานที่ในแอพพลิเคชันของตัวเอง

ทั้งหมดนี้ Foursquare ระบุว่าเป็นงานที่ต้องใช้เวลา และบริษัทต้องการนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ด้วย ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้ทุกอย่างใกล้เคียงความจริงขึ้นไปทุกที

อย่างไรก็ตาม Foursquare ถูกวิจารณ์ว่าอยู่ในฐานะระดมทุนยาก โดย Wall Street Journal เคยรายงานช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า Foursquare ต้องการระดมทุนราว 50 ล้านเหรียญ แต่นักลงทุนยังไม่ไฟเขียวเนื่องจาก Foursquare สามารถสร้างรายได้เพียง 2 ล้านเหรียญเท่านั้นในปี 2012 ที่ผ่านมา โดยตัวเลขนี้เป็นสิ่งที่แหล่งข่าววงในของสำนักข่าว Businessweek เปิดเผยไว้

ที่มา: Mashable