ผลสำรวจล่าสุดของ Gartner อาจแสดงว่าตลาดอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้านหรือ Connected home นั้นอาจไม่เติบโตรวดเร็วอย่างที่หลายคนคิด เห็นได้ชัดจากความเห็นของ 3 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่าง ระบุว่าพอใจแล้วกับการเปิดไฟหรือตั้งค่าอุณหภูมิฮีตเตอร์หรือเครื่องปรับอากาศในบ้านด้วยมือหรือระบบแมนนวล
นักวิเคราะห์ตีความรายงานล่าสุดจาก Gartner ว่าสินค้ากลุ่ม Connected home กำลังมีปัญหาไม่สามารถเรียกความตื่นเต้นจากผู้ใช้ที่ไม่ใช่กลุ่ม early adopter หรือกลุ่มที่เน้นใช้งานเทคโนโลยีทันสมัยอยู่ตลอดเวลา จุดนี้ Gartner ระบุว่ามีครัวเรือนเพียง 10% ของกลุ่มตัวอย่างเท่านั้นที่ระบุว่ามีระบบหรืออุปกรณ์ Connected home ใช้งานในบ้านของตัวเอง
สัดส่วนการใช้งาน Connected home ของกลุ่มตัวอย่าง 10% แสดงว่าสินค้ากลุ่มนี้ยังจำกัดตัวอยู่ในกลุ่ม early adopter เท่านั้น โดยผู้บริโภคทั่วไปมองไม่เห็นความจำเป็นในการใช้งานสินค้า Connected home จุดนี้ราว 3 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่างยังไม่คิดใช้ระบบเปิดไฟอัตโนมัติ รวมถึงระบบตั้งอุณหภูมิในบ้าน เนื่องจากยังคง ”happy” ในการตั้งค่าทุกอย่างด้วยตัวเอง สะท้อนว่าสินค้ากลุ่ม Connected home ซึ่งรวมระบบผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Amazon Alexa และ Google Home นั้นอาจจะยังไม่ถูกซื้อหาไปใช้งานอย่างก้าวกระโดดในเร็ววัน เช่นเดียวกับอุปกรณ์ในสังกัดของ Alphabet อย่าง Nest
หากพิจารณาแต่ในมุมผู้ใช้งาน การสำรวจพบว่าสินค้ากลุ่ม Connected home ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือระบบเตือนความปลอดภัย (18%) รองลงมาเป็นระบบตรวจตราบ้าน (11%) และระบบที่เกี่ยวกับการจัดการสุขภาพ (11%)
สำหรับระบบทำงานอัตโนมัติในบ้านและระบบจัดการพลังงานนั้นได้รับความนิยมน้อยกว่า (9%) ซึ่งไม่แน่ว่าอาจเป็นกลุ่มตลาดที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้นนักการตลาดที่ตื่นเต้นกับวงการ Internet of Things (IoT) ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ที่มา: Gartner