Site icon Thumbsup

งานนี้มีหนาว GET จับมือ GOJEK เตรียมขยายบริการมาไทย

GETเตรียมเปิดให้บริการในปีนี้ ด้วยความร่วมมือกับ “Gojek” ขยายธุรกิจมายังประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ทาง Gojek เพิ่งได้งบลงทุนรวมกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐในการขยายธุรกิจมายังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และไทย สำหรับ GET นั้นเป็น Application On Demand ที่ดำเนินการโดยผู้ก่อตั้งชาวไทย ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจด้านเทคโนโลยีและได้งบจาก Gojek ในการบริหารจัดการ

GET เป็น Application on demand ที่ก่อตั้งขึ้นโดยทีมงานคนไทย จะนำเสนอบริการต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริการเรียกรถ ส่งพัสดุ ส่งอาหาร และการชำระเงิน “GETช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น

นายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “GETกล่าวว่า ความร่วมมือกับGETเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจของGojekในประเทศต่างๆ  โดยแบรนด์GETได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อคนไทย และบริหารจัดการโดยทีมผู้ก่อตั้งคนไทยที่มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในธุรกิจด้านเทคโนโลยีและมีความเข้าใจในความต้องการของทั้งผู้บริโภค คนขับ รวมถึงหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ อย่างลึกซึ้งและมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและธุรกิจต่างๆ ในประเทศ

เดินตามทาง Gojek

เมื่อเดือนก่อนGojekได้แถลงงบลงทุนรวมกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 16,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่Gojekได้ทำการเพิ่มทุนและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำต่างๆ อย่าง Google, Warburg Pincus, KKR, Tencent และ Meituan-Dianping 

Gojekก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์นบริษัทแรกของอินโดนีเซียได้สำเร็จเพราะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อแก้ปัญหาด้านชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในประเทศได้  ทางGETเอง ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากGojekที่เริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นทุกวันจนชินตาให้กลับกลายเป็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนหลายล้านคนในประเทศได้  รวมทั้งได้คาดหวังว่าจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับประเทศ

ในฐานะคนไทยที่เกิดและโตในประเทศไทย เราจึงเข้าใจในมุมมองของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และด้วยประสบการณ์ทำงานในธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้เรามองเห็นโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ต่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค คนขับรถสาธารณะ รวมถึงธุรกิจรายย่อย

โดยโกเจ็กถือเป็นแพลตฟอร์มให้บริการแบบออนดีมานด์ด้วยบริการที่หลากหลาย อันดับหนึ่งจากประเทศอินโดนีเซีย และยังประสบความสำเร็จในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพาร์ทเนอร์คนขับกว่าหนึ่งล้านคน รวมถึงพาร์ทเนอร์ธุรกิจ SME กว่า 150,000 ราย

มั่นใจธุรกิจเดินหน้าได้ดี

ทางด้านของนายนาดีม มาคาริม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของGojekกล่าวว่า รูปแบบธุรกิจของเราเป็นที่ยอมรับว่าประสบความสำเร็จในอินโดนีเซีย เพราะเราให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์คนขับ เชื่อว่ารูปแบบธุรกิจนี้จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในประเทศอื่นๆ ได้จริงเช่นกัน

เราตื่นเต้นกับอนาคตในประเทศไทย เพราะเราได้เห็นความมุ่งมั่น แรงบันดาลใจ และความกระตือรือร้นของ ‘GETที่จะนำเทคโนโลยีและความรู้ความเข้าใจมาผสานกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าให้กับประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกันกับทางGojek โดยเราจะทำงานร่วมกับGETในด้านการสนับสนุนเทคโนโลยี ให้คำปรึกษาทั้งในด้านการพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับการเข้ามาไทยของ Gojek ในครั้งนี้ น่าจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่กวาดตลาด On Demand ในปีนี้ให้ดุเดือดได้อย่างน่าสนใจ แม้จะเป็นการทำงานผ่านพาร์ทเนอร์แต่การมีระบบเดิมที่แข็งแรงเข้ามาก็น่าจะมีการทำตลาดกันอย่างแน่นอน