Site icon Thumbsup

พี่ไม่ได้มาเล่นๆ Gojek ลุยไทยผ่าน GET ชูจุดเด่นถูกกฏหมายเตรียมอัดยาแรงสู้

บริการ Ride Sharing ยังคงมีหลายรายที่เข้ามาลองเล่นตลาดนี้ แม้จะไปไม่ถึงฝั่งถอนทัพไปก่อน แต่ก็ยังมีรายใหม่เข้ามาสู้อยู่ตลอด ซึ่ง Gojek ที่ถือว่าเป็นยูนิคอร์นสัญชาติอินโดนีเซีย เข้ามาขยายบริการในไทยโดยประกาศชัดว่า “ไม่ได้มาเล่นๆ และหวังเป็นซูเปอร์แอพของคนไทย” เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นแล้วในอินโดนีเซีย

มั่นใจตลาดไทย

นาดีม มาคาริม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Gojek กล่าวว่า การเลือกเปิดบริการมอเตอร์ไซต์วินและดิลิเวอรี่ที่เมืองไทย เพราะยังเห็นโอกาสในไทยอีกมาก เพราะเมืองไทยรถค่อนข้างติดและคนไทยคุ้นชินกับการใช้บริการมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ดังนั้น เราจึงส่งสองบริการนี้ลงสู่ตลาดก่อน จากนั้นค่อยหาบริการอื่นๆ ต่อไป 

โดยธุรกิจของ Gojek ในอินโดนีเซียนั้น เรียกว่าเป็นซูเปอร์แอพ และได้มีการขยายบริการไปแล้วในหลายประเทศ อย่างเช่น เวียดนามเป็นบริการมอเตอร์ไซต์แบบเดียวกับไทย สิงคโปร์เป็นบริการรถยนต์โดยสาร ส่วนฟิลิปปินส์ เป็นบริการด้านเพย์เม้นท์

นอกจากนี้ ไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีอาหารอร่อย จำนวนร้านอาหารในระบบของไทยถือว่ามีจำนวนสูงมาก และด้วยอากาศร้อนทำให้คนไทยชอบสั่งอาหารผ่านบริการดิลิเวอรี่ จนมีการเติบโตที่ดีมาก

รวมทั้ง Gojek มั่นใจในทีมงานของ GET ที่มีความตั้งใจอยากให้บริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของคนไทย และทีมงานทั้งสองประเทศมีแนวคิดที่ตรงกันจึงเชื่อว่าบริการนี้จะเกิดที่ไทยได้เพราะทุกคนไม่ได้มาเล่นๆ

นายนาดีม มาคาริม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโกเจ็ก และ นายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “เก็ท”

ชูจุดเด่นถูกกฏหมาย

ทางด้านของ นายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “GET” กล่าวว่า เรามั่นใจใน Gojek ที่มีนักลงทุนระดับโลกมากมายเข้ามาลงทุนและไว้ใจในแพลตฟอร์ม ซึ่งบริการนี้มีแพทชั่นมาช่วยพัฒนาชีวิตคนและมีส่วนช่วยสังคมในอินโดนีเซียในการสร้างงานกว่า 1.3 ล้านอาชีพ ยอดดาวน์โหลดกว่า 130 ล้านดาวน์โหลด ช่วยเหลือธุรกิจ sme กว่า 4 แสนราย ที่เข้ามาใช้งาน จึงเชื่อว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีช่วยสร้างความแตกต่างได้

จุดแข็งของ GET คือ ทุกครั้งที่มีการเข้าใช้งาน ระบบจะเรียนรู้ความต้องการและการค้นหาของลูกค้าในแต่ละวัน จากจำนวนร้านอาหารในระบบที่มีกว่า 20,000 รายที่ลงทะเบียนผ่านระบบ ที่ไม่ต้องค้นหาแต่ชื่อร้าน ลูกค้าสามารถค้นหาผ่านชื่อเมนูได้ด้วย ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน มีการใช้งานแล้วกว่า 2 ล้านทรานแซคชั่น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เขตสีลม บางรัก

นอกจากนี้ GET มีการทดสอบและเตรียมระบบมานานกว่า 1 ปี จึงมั่นใจว่าเราเข้าใจความต้องการของคนไทย เพราะบริการไรด์แชร์ริ่งในไทยยังถือว่าเป็นบลูโอเชียน และมีหลายบริการที่เราเตรียมไว้ให้ตรงกับจริตของคนไทยมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม GET มั่นใจเรื่องบริการที่ถูกกฏหมาย ก่อนหน้านี้เราสื่อสารกับตลาดด้วยการเข้าไปคุยกับหน่วยงานภาครัฐทุกส่วน คุยกับทุกวินมอเตอร์ไซต์ เข้าไปสื่อสารและให้ความรู้ว่าเข้ามาเพื่ออะไร เพื่อโอกาสการทำงานของคนขับอย่างไร เพราะลูกค้าประจำของวินจะมีแค่ช่วงเช้าและเย็น แต่ระหว่างวันจะว่างการเข้ามาของเราคือเพิ่มโอกาสทางรายได้ให้เขา

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่จะมีระบบ Driver Wallet ที่รับเงินได้ทุกวัน ไม่แย่งพื้นที่กัน เช่น ลูกค้าเรียกจากพื้นที่ใดระบบก็จะค้นหาผู้ขับขี่โดยกรองจากพื้นที่และวินที่ใกล้กับลูกค้ามากที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาเขม่นกันแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซต์ลงทะเบียนแล้วกว่า 80% เชื่อว่าไม่เกินไตรมาส 1 ของปีนี้จะครอบคลุมผู้ขับขี่ทั้งหมดที่มีกว่า 8 หมื่นรายได้ไม่ยาก โดยวินมอเตอร์ไซต์ที่ถูกกฏหมายจะไม่ข้ามอาชีพระหว่างรับคนและส่งของได้

ทุ่มงบอัดแคมเปญเพิ่มลูกค้าใหม่

ก่อลาภ สุวัชรังกูร CMO ของ GET เสริมเรื่องของการตลาดว่า เราอัดแคมเปญเต็มที่ แต่ไม่สามารถบอกเม็ดเงินได้ เพราะต้องการให้คนทุกกลุ่มมาใช้บริการที่ถูกกฏหมายของเราให้มากที่สุด โดยแคมเปญแรกที่เราจะให้แก่ลูกค้าได้เข้ามาใช้งานคือ ส่วนลด 50% ทุกทริปการเดินทางและส่งอาหารฟรี จนถึง 6 มีนาคมนี้ เพื่อให้คนกล้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น

แม้จะใช้แผนที่ของ Google Map ก็ตามแต่บริการต่างๆ จะสามารถปรับ POI ให้ละเอียดมากขึ้น เข้าถึงร้านค้าและผู้ใช้งานได้มากขึ้น รวมทั้งมีแผนจะเปิดบริการวอลเลตสำหรับผู้ใช้งานในไทยเช่นกัน แต่คงเป็นหลังจากนี้

โดยเป้าหมายของ GET ในปีนี้คือสร้างการรับรู้แก่ลูกค้าใหม่ในกรุงเทพกว่า 1 ล้านชีวิตให้รู้จักบริการและเข้ามาใช้งานมากขึ้น รวมทั้งตั้งใจอุดช่องว่างด้านบริการขนส่งที่ยังมีอยู่ในไทย พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ นะจ้ะ