Site icon Thumbsup

Google เปิดเผยสถิติ 17 เว็บไซต์ที่มีคนเข้ามากที่สุด

ในฐานะที่เป็นบริการค้นหาที่คนใช้ค้นหาข้อมูลมากที่สุดในโลกประกอบกับมีเครื่องมือในการเก็บสถิติที่แข็งแรง Google ได้ออกมาเปิดเผยอันดับเว็บไซต์ยอดนิยม 17 รายการที่มีคนเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด โดยอิงจากจำนวน unique viewers (ผู้ชมที่ไม่ซ้ำหน้า) โดยอิงจากข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยบริการของ DoubleClick Ad Planner ที่รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง ลองมาดูว่า 17 อันดับที่คนนิยมมากกที่สุดมีเว็บใดบ้าง

อันดับที่ 17: Youku ฝาแฝดของ youtube จากแดนมังกรที่ชาวไซเบอร์ในจีนใช้ดูคลิปต่างๆ และด้วยจำนวนประชากรบนโลกออนไลน์ของจีนหลักหลายร้อยล้านคนทำให้ youku ติดอันดับที่ 17 ได้ไม่ยาก

อันดับที่ 16: Twitter แน่นอนว่าบริการ micro-blogging ที่โตวันโตคืนรายนี้ย่อมไม่สามารถหลุดจากผังไปได้ ซึ่ง Twitter ก็สามารถไต่มาอยู่ที่อันดับที่ 16 ตามโผของ Google ได้อย่างไม่น่าประหลาดใจ


อันดับที่ 15: WordPress แพลทฟอร์มสำหรับการเขียน blog ที่คนทั้งโลกใช้เผยแพร่ข่าวสาร ความคิดเห็นต่างๆ และแน่นอนว่าถ้าไม่มี wordpress คุณผู้อ่านก็คงจะได้เห็น thumbsup ในรูปแบบที่ต่างไปจากตอนนี้เช่นกัน

อันดับที่ 14: Adobe ผู้นำทางด้านซอฟท์แวร์ที่กลายไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกออนไลน์จนแทบจะขาดไม่ได้แล้ว หนึ่งในซอฟท์แวร์ที่ทุกคนรู้จักดีก็คือ Adobe Flash ที่ทำให้เว็บดูมีสีสันนั่นเอง

อันดับที่ 13: Taobao เว็บไซต์ขายของออนไลน์หรือฝาแฝดของ eBay นั่นเอง ด้วยปัจจัยด้านฐานผู้ใช้ชาวจีน ความหลากหลายของสินค้า ราคาและการเติบโตของตลาด e-commerce ทำให้ Taobao สามารถไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 13 แซงหน้าหลายๆ เว็บไปได้ไม่ยากนัก

อันดับที่ 12: Ask.com เว็บไซต์สำหรับการถาม-ตอบที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเว็บ Ask.com ในวัย 15 ปียังมีการเติบโตและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้ทั่วโลก

อันดับที่ 11: QQ บริการแช็ตจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีฐานผู้ใช้ที่ออนไลน์พร้อมกันกว่า 100 ล้านคน และมีผู้ใช้ทั้งหมดกว่า 637 ล้านคน (ข้อมูลไตรมาส 3 ปี 2010) ทำให้ QQ กลายเป็นสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ซึ่ง QQ มีเจ้าของเป็น Tencent ยักษ์ใหญ่จากจีนนั่นเอง

อันดับที่ 10: Microsoft แน่นอนว่ายักษ์ใหญ่แห่งโลกไอทีรายนี้คงไม่สามารถหลุดจากผังไปได้ง่ายๆ ด้วยบริการที่คนทั้งโลกคุ้นเคยจำนวนมากมายทำให้ Microsoft ยังคงเป็นอีกหนึ่งไอคอนของโลกไซเบอร์ได้สบายๆ

อันดับที่ 9: Bing บริการค้นหาจาก Microsoft ที่หลายๆ คนให้ความสนใจและเชื่อถือ ประกอบกับการผลักดันทุกรูปแบบจากบริษัทแม่ ทำให้ Bing กลายเป็นอีกบริการของ Microsoft ที่ขยายฐานผู้ใช้ออกไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

อันดับที่ 8: Baidu อีกหนึ่งแฝดในจีนที่แย่งตำแหน่งจากยักษ์ฝั่งตะวันตกได้อย่างน่าจับตามอง ซึ่งบริการค้นหาอันดับหนึ่งของจีนรายนี้มีทั้งการเติบโตของผู้ใช้ และบริการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้ Baidu ขึ้นมายืนอยู่ที่อันดับ 8 ได้อย่างรวดเร็ว

อันดับที่ 7: Blogspot แพลทฟอร์มสำหรับการเขียน blog จาก Google ที่มาเป็นรายแรกๆ และผูกกับบริการอื่นๆ ของ Google ทำให้สะดวกในการใช้งานและยังคงได้รับความนิยมจาก blogger อย่างเหนียวแน่น

อันดับที่ 6: MSN เจ้าแห่งโลกออนไลน์ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมาเนิ่นนาน ประกอบกับกลยุทธ์ในการผนวกเข้ากับบริการและซอฟ์แวร์ต่างๆ ของ Microsoft และฐานพันธมิตรที่แข็งแกร่งทำให้ MSN ยืนหยัดในอันดับต้นๆ ได้อย่างสง่างาม

อันดับที่ 5: Wikipedia แพลทฟอร์มเปิดสำหรับการสร้างฐานข้อมูลที่คนทั้งโลกช่วยกันอัพเดทรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ จนกลายเป็นแหล่งอ้างอิงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและไม่มีแนวโน้มจะแผ่วลงง่ายๆ

อันดับที่ 4: Live.com จากยักษ์ใหญ่ Microsoft ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของ MSN และผนวกบริการต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้เกิด synergy ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างค่อนข้างครบถ้วน

อันดับที่ 3: Yahoo แม้จะเจอมรสุมรอบด้านจากยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ แต่ Yahoo ก็ยังสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกออนไลน์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แต่ด้วยศึกที่กำลังร้อนแรงขึ้นทุกด้านทำให้น่าจับตามองว่า Yahoo จะสามารถรักษาอันดับของตนเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่นได้อย่างไร

อันดับที่ 2: Youtube บริการดูคลิปบนโลกออนไลน์ที่แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักแล้วในวันนี้ แม้จะโดนปิดกั้นการใช้งานในจีนจนทำให้เสียฐานผู้ใช้ไปหลักร้อยล้านราย แต่ youtube ก็ยังสามารถผงาดขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 ของโลกได้อย่างมั่นคง

อันดับที่ 1: Facebook สังคมออนไลน์ที่โตวันโตคืนและมีผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลกถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของโลกอินเทอร์เน็ตเลยทีเดียว และด้วยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ Facebook สามารถกลายเป็นแชมป์ได้อย่างไม่มีข้อกังขา

จะเห็นว่าจากการจัดอันดับ 17 อันดับนี้ไม่มีรายชื่อบางเว็บที่หลายๆ คนจับตาดู โดยเฉพาะตัว Google.com เองที่น่าจะติดอันดับต้นๆ ด้วยซ้ำ ซึ่งในการจัดอันดับครั้งนี้ Google เองได้ยอมรับว่ามีการดึงบางเว็บออกจากโผ โดยเฉพาะเว็บสำหรับผู้ใหญ่, เครือข่ายโฆษณา, เว็บที่ไม่สามารถโหลดข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงบางเว็บของ Google เอง ซึ่ง Google ไม่ได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมถึงกรณีหลังสุด

ที่มา:?Huffington Post

ความเห็นเพิ่มเติมของผู้แปล

4 ข้อที่น่าจับตามอง

  1. Microsoft ยังถือว่าแข็งแรงมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งจากสถิติที่เผยโดยคู่แข่งอย่าง Google พบว่ามีเว็บของ Microsoft ติด Top 10 ถึง 4 เว็บ ได้แก่ Live, MSN, Bing และเว็บหลักของ Microsoft ซึ่งแสดงให้เห็นว่าด้วยฐานผู้ใช้ซอฟท์แวร์, ระบบปฏิบัติการ, เบราเซอร์ รวมถึงบริการอื่นๆ ของบริษัทและพันธมิตรทำให้ Microsoft ยังสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง
  2. เว็บไซต์จากจีน และฐานผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของจีนกำลังมีบทบาทในโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง 4 จาก 17 เว็บที่ได้รับความนิยมสูงสุดแสดงให้เห็นว่าเว็บเหล่านี้สามารถขึ้นมาทัดเทียบเว็บชั้นนำจากฝั่งตะวันตกของโลกได้แล้ว และนั่นหมายถึงว่าเม็ดเงินจำนวนไม่น้อยกำลังจับตามองแดนมังกรและพร้อมที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อสร้างรายได้จากกลุ่มผู้ใช้จำนวนมหาศาลเหล่านี้
  3. “Content” และ “Community” เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ซึ่งจาก 17 อันดับจะเห็นว่าเป็นเว็บหรือแพลทฟอร์มสำหรับการบริโภคข้อมูลและการเชื่อมโยงผู้ใช้เข้าด้วยกันเป็นส่วนใหญ่
  4. ด้วยการเติบโตที่รุนแรงของ Facebook จนขึ้นไปอันดับ 1 ของเว็บทั้งโลกทำให้ผู้ให้บริการรายต่างๆ ยิ่งต้องหาทางรับมืออย่างรวดเร็วเพราะข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อาณาจักรของ Facebook นั้นแทบจะไม่เปิดให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงได้เลย ดังนั้นหากฐานผู้ใช้ของ Facebook ยิ่งเติบโต, ผู้ใช้ใช้เวลาบน Facebook มากขึ้น, มีการแชร์ข้อมูลบน Facebook มากขึ้น และมีฟังก์ชั่นต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูรูป ดูคลิป การค้นหา การเขียน blog หรือแม้แต่การ chat จะยิ่งทำให้เกิดการแข่งขันและแย่งผู้ใช้ไปจากบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการฝากรูป, บริการฝากคลิป, บริการเขียน blog ฯลฯ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดยักษ์ใหญ่หลายๆ รายถึงต้องหันมามอง Facebook เป็นคู่แข่งอย่างเลี่ยงไม่ได้

หากใครมีมุมมองอื่นๆ เพิ่มเติมมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะครับ และคงต้องรอดูกันว่าในการประกาศอันดับครั้งต่อไปของ Google เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และอันดับต้นๆ จะสามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ได้หรือไม่ น่าจับตามองครับ