Site icon Thumbsup

Google เผยรายงานการเปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบดิจิทัลสามารถปลดล็อกมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยปี 64 ได้ถึง 1 ล้านล้านบาท

Google เผยแพร่รายงานที่มีชื่อว่า “Unlocking Thailand’s Digital Potential” (การปลดล็อกศักยภาพทางดิจิทัลของประเทศไทย) ที่จัดทำโดย AlphaBeta โดยรายงานฉบับนี้ระบุว่าการเปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบดิจิทัลจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้ถึง 2.5 ล้านล้านบาทต่อปี (7.95 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในปี 2573 หรือหากเทียบให้เห็นภาพชัดเจน มูลค่านี้จะเทียบเท่ากับประมาณ 16% ของ GDP ประเทศไทยในปี 2563

จากรายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า 65% ของโอกาสทางดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท (5.17 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) น่าจะมาจากการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ บรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 นอกจากนี้ การเปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบดิจิทัลยังมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถด้านการฟื้นตัวในระยะยาวของธุรกิจไทย

นอกจากนี้รายงานยังได้ระบุว่า อัตราการนำระบบดิจิทัลไปใช้ของธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยยังคงต่ำอยู่ โดยมีสาเหตุมาจากการขาดแคลนทักษะดิจิทัล ความรู้ด้านเทคโนโลยี และบัณฑิตด้านเทคโนโลยี รวมทั้งต้นทุนที่สูงของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เช่น เครือข่าย 5G

รายงานยังได้ระบุ 3 เสาหลักของการดำเนินการสำหรับประเทศไทยที่นำไปสู่การคว้าโอกาสทางดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งได้แก่ การช่วยให้ธุรกิจต่างๆ นำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้งานได้ง่ายขึ้น การปรับปรุงการฝึกอบรมทักษะและการศึกษาด้านระบบดิจิทัล และการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การค้าดิจิทัล

แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเรื่องยากสำหรับประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่คนไทยก็ได้ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง และคว้าโอกาสใหม่ๆ โดยนำเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ทั้งนี้ Google ยังคงมุ่งมั่นในการช่วยให้ประเทศคว้าโอกาสทางดิจิทัลให้ได้อย่างเต็มศักยภาพผ่านโปรแกรมและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเรา”

จากรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฉบับล่าสุดที่จัดทำโดย Google, Temasek และ Bain คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคนี้จะแตะ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 สำหรับประเทศไทย คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาท (3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2564 คิดเป็นอัตราการเติบโต 51% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีอีคอมเมิร์ซเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังพบว่า 34% ของผู้ค้าดิจิทัลเชื่อว่าพวกเขาจะไม่สามารถผ่านวิกฤตครั้งใหญ่นี้ไปได้เลยหากไม่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล และการเปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบดิจิทัลจะยังคงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ยังคงดำเนินต่อไปและเติบโตขึ้นได้

แจ็คกี้ กล่าวเสริมว่า “เราช่วยให้การนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้งานเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นด้วย Google Cloud และ Think with Google ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ นำเครื่องมือดิจิทัลและข้อมูลเชิงลึกที่อิงจากข้อมูลจริงไปพัฒนาบริการของตนเอง ในส่วนของการพัฒนาการฝึกอบรมทักษะและการศึกษาด้านระบบดิจิทัล เราได้เปิดตัวโครงการ Saphan Digital โดยร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเสริมทักษะดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการ SME ไทย

รวมทั้งโปรแกรม Skillshop ที่เป็น one-stop-shop สำหรับฝึกฝนการใช้เครื่องมือต่างๆ ของ Google และสำหรับการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การค้าดิจิทัลระดับโลกนั้น เราได้เปิดตัวโครงการ Google for Startups Accelerator: Southeast Asia ที่ทำให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเข้าถึงเครือข่ายระดับโลกของพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมเพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยทั้งหมดนี้เป็นความมุ่งมั่นของเราภายใต้พันธกิจ Leave no Thai behind”

Genevieve Lim ผู้บริหารของ AlphaBeta กล่าวว่า “หากมีการนำไปใช้ประโยชน์กับเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ ภายในปี 2573 เทคโนโลยีดิจิทัลจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อปีได้ถึง 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 16% ของ GDP ประเทศไทยในปี 2563 อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจก็คือภาคธุรกิจอันดับต้นๆ อย่างค้าปลีก งานบริการ และการผลิต สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างไร โดย 21% ของโอกาสทางเศรษฐกิจเป็นของภาคผู้บริโภค ค้าปลีก และงานบริการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลของเทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ภาคธุรกิจ ICT เท่านั้น”