Site icon Thumbsup

Google ปิดโครงการวิจัยเพาะปลูกแนวตั้ง (Vertical Farming) แบบเงียบๆ พร้อมยอมรับว่าไปไม่รอด

สองคำถามแรกที่คุณอาจจะคิดอยู่ในใจตอนนี้ น่าจะเป็น Vertical farming คืออะไร? และ Google ทำอะไรกับมัน? 

สำหรับคำถามแรก ตอบได้ง่ายๆ ว่า มันคือการเพาะปลูกที่ต้องการเนื้อที่น้อยๆ ซึ่งก็คือให้มันเป็นไปในแนวตั้ง ไม่ใช่แนวนอน สามารถทำได้ในที่ร่ม ลดการซื้อพืชผักบางชนิดได้ ด้วยพื้นที่เพียงน้อยนิดบนตึกสูง และใช้น้ำเหลือทิ้งจากกิจกรรมอื่นๆ นั่นคือแนวคิดของ Vertical farming

และคำถามที่ 2 Google กำลังทำอะไรกับมัน

เมื่อปีที่แล้ว Alphabet พูดถึงการยกเลิกโปรเจกต์จำนวนมากในแล็บของตัวเอง ซึ่งก็รวมถึง Vertical farming ด้วย

เหตุผลแรกที่ทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นมาก็เป็นเพราะข้อมูลที่ว่า 1 ใน 9 ของผู้คนบนโลกนี้ต้องทุกข์ทรมานจากภาวะโภชนาการขาดแคลน และโดยหลักการแล้ว Vertical farming ก็ใช้น้ำน้อยกว่าวิธีดั้งเดิมถึง 10 เท่า ใช้เวลาน้อยกว่า 100 เท่า เมื่อเทียบกับวิธีเพาะปลูกแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังเพาะปลูกพืชได้ในที่ใกล้ๆ ตัว จึงตัดปัญหาเรื่องการขนส่งไปได้เลย

ที่น่าสนใจคือ Google ก็ทุ่มกับโครงการนี้ไปได้ไกลพอสมควร เพราะมีการพูดถึงระบบเก็บเกี่ยวแบบอัตโนมัติ และระบบที่ช่วยเรื่องการสังเคราะห์แสงของพืช แต่น่าเสียดายที่โปรเจกต์นี้ไม่ได้ไปต่อ เหตุผลก็คือ Google ไม่สามารถทำให้ธัญพืชและข้าวเติบโตได้ด้วยวิธีการที่ทำมาทั้งหมด

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Google ก็ยังมีเรื่องที่คิดไม่ตก และเบื้องหลังความสำเร็จอันสวยหรู อาจมีหลายเรื่องที่ไม่ได้ถูกเล่า

อย่างไรก็ตาม Google เองก็ยังไม่ได้ทิ้งมันไปเสียทีเดียว เพราะมีการสรุปมาว่า ถ้าใครสามารถปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้เติบโตได้ในที่ขนาดเล็ก ก็ช่วยมาบอก Google ทีเถอะ เพราะมันคงช่วยไขปริศนาคาใจทีมงานได้เสียที

จริงๆ แล้วการโฟกัสกับการเกษตรกรรมและอาหารการกินไม่ใช่เรื่องใหม่ของ Google เพราะจากสถิติเมื่อปีที่แล้ว การลงทุนในสตาร์ทอัปแนวๆ นี้มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของ Google แถมยังทำรายได้ให้กับบริษัทถึง 31% โดยมีโปรเจกต์เบอร์เกอร์ปลอดเนื้อเป็น 1 ในโปรเจ็กต์ที่ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ

แน่นอนว่า Google ยังมีเงินอีกมากเพื่อที่จะทำวิจัยและพัฒนาในเรื่องนี้ นับว่าเป็นข่าวดีของคนทำสตาร์ทอัปสายเกษตรกรรมเช่นกัน

ที่มา : The Next Web