Site icon Thumbsup

ผลสำรวจพบว่ามีผู้นำประเทศจากทั่วโลกใช้งาน Twitter มากถึง 75%

twitter2

นี่คือความเคลื่อนไหวที่ตอกย้ำว่าโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter กำลังมีอิทธิพลต่อโลกทั้งใบอย่างแท้จริง การสำรวจล่าสุดพบว่า Twitter ถูกใช้เป็นกระบอกเสียงของผู้นำรัฐบาลทั่วโลกอย่างจริงจัง ซึ่งชาวออนไลน์ก็ชื่นชอบเพราะจำนวนผู้ติดตามความเคลื่อนไหวของนักการเมืองบน Twitter ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ยุคหนึ่ง Twitter ถูกมองว่าเป็นเครือข่ายสำหรับบอกเล่าว่าใครกำลังกินอะไร หรือเที่ยวที่ไหนเท่านั้น กระทั่งเหล่าคนมีชื่อเสียงหรือเซเลบริตี้ในวงการต่างๆ เริ่มหันมาใช้ Twitter เป็นกระบอกเสียงในการสื่อสารถึงคนที่ชื่นชอบในเรื่องเดียวกัน เช่น นักกีฬาชื่อดังที่สามารถบอกเรื่องราวการฝึกซ้อมของตัวเองแก่แฟนๆได้อย่างใกล้ชิด หรือนักบินอวกาศที่คอยอัปเดทเรื่องราวความคืบหน้าของโครงการที่ดำเนินอยู่ นักเคลื่อนไหวที่ใช้ Twitter เป็นเครื่องมือนัดหมายที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเริ่มจับได้ไล่ทัน รวมถึงนักการตลาดที่ใช้ Twitter เป็นช่องทางกระจายข่าวสารของแบรนด์ตัวเอง

ล่าสุด Twitter กำลังเป็นเครื่องมือสื่อสารทางการเมืองอย่างจริงจัง เพราะการสำรวจพบว่าผู้นำรัฐบาลกว่า 75% ทั่วโลกล้วนลงชื่อใช้งานบน Twitter อย่างเป็นทางการ โดยการสำรวจขององค์กร Digital Policy Council (DPC) พบว่าในจำนวน 164 ประเทศ ผู้นำรัฐบาลกว่า 123 ประเทศในกลุ่มนี้ล้วนมีชื่อบัญชี Twitter เป็นของตัวเอง

รายงานพบว่า ผู้นำเหล่านี้จะมีชื่อบัญชีส่วนตัวไว้ใช้งาน และจะมีบัญชีสำหรับส่งข่าวสารอย่างเป็นทางการในนามรัฐบาล จุดนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขผู้นำรัฐบาล 123 ประเทศที่ลงชื่อใช้งาน Twitter นั้นเพิ่มขึ้นจากปี 2011 อย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2011 การสำรวจพบว่ามีเพียง 69 ประเทศเท่านั้นที่ผู้นำลงชื่อใช้งาน Twitter (จาก 164 ประเทศกลุ่มเดียวกัน)

จากกราฟจะพบว่า สัดส่วนผู้นำ 75% ที่ใช้งาน Twitter นั้นเพิ่มขึ้นจากปี 2011 ที่มีอยู่ 42% และ 20% ในปี 2010 ถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในแต่ละปี

รายงานจาก DPC ระบุว่าประธานาธิบดี Barack Obama ของสหรัฐฯนั้นเป็นผู้นำที่ถูกจับตามองมากที่สุดอันดับ 1 บน Twitter โดยมีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 25 ล้านคน (follower) อันดับที่ 2 คือ Hugo Chavez แห่งเวเนซุเอล่า จำนวนผู้ติดตาม 3.5 ล้านคน

นี่ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ถึงความยิ่งใหญ่ของ Twitter ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือทรงพลังของนักการตลาดไปอีกหลายปี

ที่มา: Techcrunch