Site icon Thumbsup

ระวังโดนหลอก !! Facebook แนะนำวิธีรักษาบัญชีผู้ใช้ ให้ปลอดภัยจากกลลวงฟิชชิ่งและสแกม

การศึกษาเกี่ยวกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยที่จัดทำขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่า 44.5% นั้นละเลยการตรวจสอบที่อยู่เว็บไซต์ที่พวกเขาใช้เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ว่าปลอดภัยหรือไม่ และ 43% ก็ยอมรับว่าเคยเปิดลิงค์กับอีเมล์ที่ดูไม่น่าไว้ใจ  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของคนไทยนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าที่คิด  เราจึงจะมาบอกวิธีป้องกันบัญชี Facebook ให้ปลอดภัยกัน

นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ล้วนแต่มีความเสี่ยงทั้งนั้น การศึกษา 2 ชิ้นที่จัดทำขึ้นโดยซิสโก (Cisco) เมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่ามีการรายงานการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งจำนวนหลายหมื่นครั้งทั่วโลกในแต่ละเดือน และโดยเฉลี่ยแล้ว มีพนักงาน 2 คนที่ทำงานอยู่ในธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดย่อมมักดาวน์โหลดข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งนำมาสู่ภัยคุกคามภายในองค์กร

บัญชี Facebook แอดมินของกลุ่มสำหรับชุมชน เจ้าของเพจธุรกิจ สื่อมวลชน ครีเอเตอร์ และโปรไฟล์ของบุคคลที่มีชื่อเสียงต่างๆ นั้นอาจตกเป็นเป้าหมายของผู้ประสงค์ร้ายที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลการติดต่อและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ และนี่คือเคล็ดลับสำคัญจาก Facebook ในการหลีกเลี่ยงการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งและสแกม ซึ่งเป็นรูปแบบอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน

ฟิชชิ่งคืออะไร

ฟิชชิ่ง คือ การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต เมื่อมีบุคคลพยายามที่จะเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ Facebook ด้วยการส่งข้อความหรือลิงค์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ฟิชชิ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งอีเมล์ โปรไฟล์ในโซเชียลมีเดีย โพสต์ และข้อความ หรือเว็บไซต์ปลอม โดยทั่วไปแล้ว นักต้มตุ๋นจะอ้างตัวว่าเป็นพนักงานจากบริษัทที่มีชื่อเสียงหรือแกล้งปลอมตัวเป็นบุคคลที่เรารู้จัก เพื่อขอให้ส่งข้อมูลรหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ และหากพวกเขาสามารถเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้งานได้ พวกเขาอาจใช้บัญชีของเราในการส่งสแปม

วิธีการป้องกันการถูกหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง

1. ระวังอีเมล์หรือข้อความเสี่ยงๆ

อีเมล์ที่มาจาก Facebook เกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้นั้นจะประกอบด้วย fb.com, facebook.com หรือ facebookmail.com เสมอ  ซึ่งสามารถเยี่ยมชม www.facebook.com หรือเข้าไปที่หน้าแอพ Facebook เพื่อตรวจสอบข้อความสำคัญจากระบบ  นอกจากนี้คืออย่าหลงเชื่อข้อความที่ขอเงิน ให้ของขวัญ หรือข่มขู่ว่าจะลบหรือแบนบัญชีผู้ใช้ Facebook

2. อย่าเผยข้อมูลการเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้

Facebook จะไม่ถามรหัสผ่านของเราผ่านอีเมล์ หรือส่งรหัสผ่านให้เป็นไฟล์แนบเป็นอันขาด และคุณควรหลีกเลี่ยงการเผยข้อมูลการเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้กับผู้อื่นด้วยเช่นกัน

3. อย่าคลิกลิงค์แปลกๆ

หากเห็นอีเมล์ ข้อความ หรือโพสต์ที่ไม่น่าไว้วางใจและอ้างว่ามาจาก Facebook อย่าคลิกไปที่ลิงค์หรือไฟล์แนบเหล่านั้น

4. อย่าตอบกลับอีเมล์ที่น่าสงสัย

อย่าตอบกลับข้อความที่ขอรหัสผ่าน เลขประกันสังคม หรือข้อมูลบัตรเครดิต

5. รายงานตรงไปที่ Facebook

หากอีเมล์หรือข้อความ Facebook ที่ได้รับมีลักษณะที่น่าสงสัยก็สามารถรายงานไปที่ phish@fb.com หรือหากต้องการรายงานบทสนทนา ก็ควรถ่ายภาพหน้าจอไว้ก่อนที่จะลบหน้าบทสนทนานั้นทิ้งไป โดยข้อความต่างๆ จะยังไม่ถูกลบออกจากอินบ็อกซ์ของฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ยังสามารถรายงานเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือสแปมบน Facebook ผ่านลิงค์การรายงานที่จะปรากฏอยู่ใกล้ๆ ตัวเนื้อหาอีกด้วย

6. ใช้งานฟีเจอร์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยต่างๆ

รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบที่ไม่คุ้นเคยและตั้งค่าการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีผู้ใช้ และเพื่อป้องกันตัวเองจากผู้ประสงค์ร้าย ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งหรือสแกม ก็ควรใส่ใจกับ “สัญญาณแจ้งเตือน” เพิ่มเติมที่อาจช่วยบ่งบอกว่าคุณกำลังตกเป็นเหยื่อของคนร้ายได้

ทำอย่างไรดีถ้าโดนหลอกไปแล้ว??

ถ้าเผลอไปให้ข้อมูลชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านในลิงค์ที่ไม่น่าเชื่อถือโดยไม่ได้ตั้งใจ  เราก็อยากแนะนำให้ทำใจเย็นๆ  และปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้

หรือหากอยากดูในส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้เพิ่มเติม  สามารถเข้าไปได้ที่ https://www.facebook.com/help/

ที่มา : ข่าว PR จาก บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ ประเทศไทย