Site icon Thumbsup

กูรูโลจิสติกส์แนะลูกค้า งดใช้ “หนูเองนะคะแม่” แล้วของจะถึงไวขึ้น

เวที e-Biz Expo Asia 2017 คาดการณ์ตลาดโลจิสติกส์ 5 ปีข้างหน้างานชุกรับ e-Commerce โต แนะผู้ใช้บริการขนส่งงดใช้ชื่อไม่เป็นทางการ เช่น หนูเองนะคะแม่”, “ชั้นเองนะจำได้ไหมเพื่อให้ถึงมือผู้รับรวดเร็ว ด้านกูรูแนะผู้ประกอบการรายใหม่สร้างจุดแข็งเนื้อหาต้องโดน และควรรีวิวสินค้าจากประสบการณ์ตรง

ตลาด e-Commerce ไทยยังไปได้อีกไกล โดยในเวทีสัมมนา e-Biz Expo Asia 2017 หัวข้อ “Last Mile Delivery: โลจิสติกส์ คือกุญแจสำคัญของการทำอีคอมเมิร์ซไทย” ได้มีกูรูด้านการขนส่งรายใหญ่ของไทยออกมาให้แง่คิดด้านการขนส่งสินค้าต่อธุรกิจ e-Commerce กันอย่างคึกคัก 

โดยนายพิษณุ วานิชผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงการเติบโตของปริมาณงานขนส่งที่เพิ่มขึ้นว่า ขณะนี้ปริมาณงานมีการกระจายตัวออกไปสู่ภูมิภาคสูงขึ้น จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ และยังมีมูลค่าการสั่งซื้อสูงขึ้นด้วย (พิจารณาจากข้อมูลการให้บริการเก็บเงินปลายทาง หรือ cash on delivery หรือ COD)

“การเข้ามาให้บริการ Last Mile Delivery ในเมืองใหญ่ที่หลากหลายมากขึ้น นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาด e-Commerce ในเมืองไทย ทั้งนี้ ยังพบการเปลี่ยนแปลงในการทำ cross border  ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ปริมาณงานที่เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดดนี้อาจส่งผลต่อการให้บริการในอนาคต เช่นในกรณีของญี่ปุ่น ที่ผู้ให้บริการหลายราย ต้องรวมตัวกันเพื่อส่งของให้ลูกค้า ซึ่งคาดว่าระบบขนส่งไทยอาจจะเจอปัญหาเรื่องของปริมาณงานขนส่งใน อีก ปี 

ขณะที่นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งให้บริการขนส่งในประเทศเท่านั้น ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำหรับการขนส่งของลูกค้ากลุ่ม C2ที่ใช้บริการ COD จากเดิมมีมูลค่า 500 ล้านบาทต่อเดือน แต่ปีนี้สูงถึง 1000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งโตเร็วมาก โดยการส่งที่โตขึ้นแบ่งเป็นสัดส่วน กทม 30%  ต่างจังหวัด 70  เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซในต่างจังหวัดยังขยายฐานได้อีก นอกจากนี้ ระบบการขนส่งที่เปลี่ยนแปลงยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้าในต่างจังหวัดสูงขึ้นด้วย

ขณะที่ นางสาวปุญญามาลย์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดคู่ค้าทางกลยุทธ์ด้านดิจิทัล บริษัท Niko’s Group ยอมรับว่ากระแสของโลจิสติกส์มาแรงมาก มีเอกชนรายใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาด ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยเฉพาะการให้บริการที่มาแรงควบคู่กัน คือ COD เพราะคนอยากเห็นสินค้าก่อนจ่ายเงินทีหลัง จึงเกิดการต่อยอดระบบการจ่ายเงินโดยวิธีรูดบัตรหน้างาน  และรวมถึงการจ่ายเงินผ่านระบบ เช่น LINE Pay และไม่เพียงตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นทะลุกว่า 2.5 ล้านล้านบาทเท่านั้น แต่ยังมีลูกค้ากลุ่ม social commerce ที่ต้องจับตามอง 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ให้บริการด้านการขนส่งมองว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ คือ ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องขนส่ง ปัญหาหลักคือการแพ็คสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน การบรรจุหีบห่อที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งถือเป็นเรื่องพื้นฐานของการขนส่ง เพราะการส่งของแม้จะใส่กล่องอย่างดี แต่ถ้าไม่ห่อให้เรียบร้อยก็อาจทำให้สินค้าได้รับความเสียหายได้ รวมถึงการจ่าหน้าซอง ชื่อที่อยู่ผู้ส่ง ที่บ่อยครั้งมีการใช้ชื่อที่ไม่เป็นทางการ เช่น “หนูเองนะคะแม่”, “ชั้นเองนะจำได้ไหม”, รวมถึงการใช้กล่องเดิมซ้ำๆ ดังนั้น ผู้ใช้บริการขนส่งอาจต้องเลือกการขนส่งที่เหมาะกับสินค้า และการแพ็คสินค้าของตัวเองด้วย เพราะการส่งแบบ the last mile  เป็นการขนส่งสินค้าพร้อมกันจำนวนหลายชิ้น

เปิด 5C เทคนิคสู้ผู้ประกอบการรายใหญ่

ขณะที่ การสัมมนา ในหัวข้อ “มันต้องสู้ ปลาเล็กกินปลาใหญ่ – SMEs จะแข่งกับ e Commerce รายใหญ่ยังไง?โดยนายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ผู้ก่อตั้ง Priceza.com ได้แนะผู้ประกอบการรายใหม่ต้องหา 5c มาเป็นหลักให้ธุรกิจของตัวเองเพื่อกระโดดเข้าสู่ตลาดออนไลน์ ซึ่ง 5C ประกอบด้วย

  1. Core Focus ต้องหาจุดแข็งของตัวเอง ว่า มีความเชี่ยวชาญหรือ มีความรู้มากในด้านใด และคิดว่าทำสิ่งนั้นได้ดีกว่า ที่สำคัญคือ ต้อง รักที่จะทำสิ่งนั้น เพราะต้องพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาที่เข้ามาทุกวัน
  2. Content Marketing เนื้อหาต้องโดน เนื่องจากการขายออนไลน์ ไม่มีพริตตี้ ไม่มีเซลคอยเชียร์สินค้าหน้าร้าน จึงต้องทำเนื้อหาให้โดนใจ ข้อมูลสินค้าต้องแตกต่าง มีการทำรีวิวสินค้าด้วยVDO  รีวิวสินค้าโดยผู้ใช้จริง อธิบายสินค้าด้วยประสบการณ์ตรง และใช้พื้นที่ให้ความรู้ อัพเดทข่าวสาร
  3. Community Building การสร้างเผ่าของตัวเอง คือการหาวิธีดึงดูดให้คนที่สนใจในสิ่งเดียวกันมารวมตัวกันในพื้นที่ของคุณ
  4. Channels การกระจายขายในหลายช่องทาง โดยการสร้างเว็บสินค้าของตัวเอง หรือการสร้าง ไอจี เฟซบุ๊ก และไลน์ รวมถึงกระจายไปยัง e-MarketPlace และ Online Retailer
  5. CRM การบริหารฐานลูกค้า คือการหาวิธีให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำ ดังนั้นต้องรู้จักลูกค้า และหาช่องทางติดต่อกับลูกค้า เพื่อทำให้สามารถต่อยอดไปได้    

สำหรับงาน e-Biz Expo Asia 2017 จัดโดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.)สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทสไทย (SME Bank),  และ Ready Planet มีการเชิญผู้ให้บริการ Service Provider ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการประกอบธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยที่สนใจสามารถใช้เทคโนโลยีด้าน e-commerce ใหม่ที่นำมาจัดแสดงในงาน และการสัมมนาให้ความรู้