Site icon Thumbsup

HTC ไม่ง้อ Android … วางแผนซื้อ OS ของตัวเอง

Cher Wang ประธานบริษัท HTC แถลงว่าบริษัทกำลังคิดที่จะซื้อ OS เป็นของตัวเอง โดย HTC ได้บอกว่ากำลังคิดมองหาทางเลือกอื่นๆ ในแง่กลยุทธ์สำหรับธุรกิจนี้?โดย Wang กล่าวว่า จะไม่ตัดสินใจซื้อ “ตามกระแส” -?จากรายงานจาก?Economic Observer of China.

คาดว่า HTC ต้องกลับมาคิดหนักถึง?platform ที่จะใช้ หลังจากที่?Google ประกาศซื้อ Motorola Mobility?เพราะนั่นหมายความว่า Google ที่เป็นเจ้าของ?Android platform จะลงมาแข่งกับลูกค้าเสียเอง โดยในปัจจุบัน HTC เป็นหนึ่งในผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ใช้ Android เป็นอันดับต้นๆ ตาม Samsung มาติดๆ ต่างกันที่ Samsung ยังมี OS เป็นของตัวเอง หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ต้องกลับมาใช้ OS ตัวเองก็ยังทำได้

ที่จริง HTC ก็มีโทรศัพท์ที่ใช้ Microsoft?s Windows Phone platform และเป็นพันมิตรหลักกันด้วย แต่จากการที่ Microsoft ได้ประกาศเป็นจับมือกับ Nokia?เมื่อต้นปี ก็ส่งผลกระทบที่สำคัญกับ HTC อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในการสัมภาษณ์ Wang ได้ย้ำถึงการสนับสนุนการควบรวมกิจการระหว่าง?Google และ Motorola?ซึ่งช่วยให้?Google มีสิทธิ์ในการใช้สิทธิบัตรที่ Motorola ครอบครองอยู่เป็นจำนวนมาก และ Google ก็ได้โอนสิทธิบัตรหลายตัวให้?HTC เพื่อนำไปสู้กับการฟ้องร้องของ?Apple ที่กำลังดุเดือดอยู่ในขณะนี้

จากบทความใน?Focus Taiwan –?Wang กล่าวว่า “จุดแข็งของ HTC คือการเข้าใจในตัว OS แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องมี OS เป็นของตัวเอง” โดยก่อนหน้านี้ ทาง HTC ได้มีการใช้ OS Android และ Microsoft แต่ปรับ UI ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับโทรศัพท์ HTC เพื่อให้แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น

ความเห็นผู้แปล: การออกมาให้สัมภาษณ์ว่าบริษัท “กำลังคิดจะซื้อ” คิดได้ 2 ทางคือ?1.?บริษัทวางแผนซื้อจริงๆ และได้ดำเนินการเจรจาตกลงมาระดับหนึ่งแล้ว เพราะในทางธุรกิจ การเคลื่อนไหวหรือตัดสินใจที่สำคัญมักจะเป็นความลับ การจะออกมาให้ข่าวแต่ละครั้งจะมีการเตรียมการมาแล้วเป็นอย่างดี การออกมาให้ข่าวครั้งนี้ น่าจะเป็นการกรุยทาง หรือบอกเป็นนัยๆ ล่วงหน้าถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือ 2. สร้างข่าวดีเพื่อให้มีผลในทางบวกกับบริษัท?ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน หรือทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นในระยะสั้น

ส่วนว่าเราจะเห็น HTC ประกาศซื้อ OS ในอนาคตอันใกล้นี้ หรือนี่จะเป็นแค่การหาเรื่องที่น่าสนใจเพื่อขอแบ่งพื้นที่ข่าวประจำวันเท่านั้น?คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

ที่มา: Mobile Business Briefing