Site icon Thumbsup

Experience สำคัญ LEGO เปิดตัวแอปพลิเคชัน AR ชวนเด็กเล่นตัวต่อบนโลกจำลอง

Lego ตัวต่อของเล่นที่เป็นเพื่อนของเด็ก ๆ มาหลายยุคหลายสมัยได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Augmented Reality แล้วบน App Store ในชื่อ LEGO AR-Studio ซึ่งความน่าสนใจก็คือ เลโก้มองว่า แอปพลิเคชันนี้จะสามารถสร้างประสบการณ์ในการเล่น Lego ให้ดีขึ้นด้วยนั่นเอง

โดยในแอปพลิเคชัน มีแบบของตัวต่อ Lego ให้ผู้ใช้งานเลือกมาเล่นได้หลายแบบ เพียงมองหาพื้นที่ว่าง ๆ ภายในบ้าน หรือสนามหญ้าแล้วจิ้มลงไปที่ชุด Lego ที่สนใจ ภาพเสมือนจริงของ Lego ชุดนั้นก็จะมาปรากฏอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนทันที (รองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่รัน iOS 11 ขึ้นไปเท่านั้น ได้แก่ iPhone 6s, 6s Plus, 7, 7 Plus, SE, 8, 8 Plus, iPhone X, iPad Pro และ iPad (2017) ส่วนแฟน ๆ แอนดรอยด์รอไปก่อนนะจ๊ะ)
อย่างไรก็ดี เมื่อแบบจำลองของ Lego มาปรากฏแบบเสมือนจริงบนหน้าจอสมาร์ทโฟนแล้ว ก็จะมีสถานการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นกับแบบจำลองนั้น ๆ ด้วย เช่น มีไฟไหม้ หรือตัวละครได้รับอุบัติเหตุ ทีนี้ก็จะถึงตาผู้เล่นอย่างเรา ๆ ให้เข้าไปช่วย โดยมีรางวัลเป็นตัวต่อสีทองเป็นการตอบแทน
Tom Donaldson รองประธานของ LEGO Creative Play Lab กล่าวถึงแอปพลิเคชัน LEGO AR-Studio นี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเขาบอกว่า รูปแบบการเล่นในอนาคตจะเป็นเช่นไรนั้น เป็นเรื่องที่เด็ก ๆ (และผู้ใหญ่?) ในวันนี้สามารถออกแบบขึ้นมาเองได้ โดยเขามองว่า แอปพลิเคชันนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีของการเล่นที่เด็ก ๆ สามารถนำตัวต่อของจริงมาเล่นร่วมกับภาพจำลองในแอปพลิเคชัน AR ซึ่งจะช่วยต่อยอดจินตนาการให้กับเด็ก ๆ ได้อีกมากนั่นเอง
คำตอบของ Tom Donaldson จึงน่าจะส่งไปถึงใครหลายคนที่อาจมีคำถามว่า แล้วแอปพลิเคชัน AR ตัวนี้จะทำให้ผู้เล่นเมินการซื้อตัวต่อ Lego ของจริงไปหรือไม่ เพราะคงจะดีไม่น้อย หากในสถานการณ์ที่กำลังเกิดในเกมนั้น มีตัวต่อที่เราสร้างขึ้นเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
ที่สำคัญ เราเชื่อว่าคนเล่น Lego ไม่ได้มีแต่เด็ก ๆ ซึ่งในกลุ่มผู้เล่นผู้ใหญ่ หลายคนอาจได้ไอเดีย นำคอนเทนต์ AR มาผสมร่วมกับตัวต่อของจริงแล้วผลิตเป็นคลิปวิดีโออัปโหลดขึ้น YouTube ได้อีกต่อด้วย
ส่วนข้อดีอีกประการของแอปพลิเคชันนี้ที่ Lego ทำออกมาแล้วได้ใจผู้เล่นคือ ฟรี และไม่มีการซื้อภายในเกม แต่ก็ไม่แน่ว่า ถ้าอนาคต การเล่นในลักษณะนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น Lego อาจเปิดให้มีการซื้อขายขึ้นภายในแอปพลิเคชันด้วยเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Forbes