Site icon Thumbsup

รวมไว้ให้คุณแล้ว! โซลูชั่นสำหรับธุรกิจบน LINE ช่วยทำธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ จากงาน THAILAND NOW AND NEXT : PREPARING FOR THE CHANGING WORLD

ในยุคที่การทำธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนจากหน้าร้านมาเป็นการทำธุรกิจออนไลน์ เรื่องของการใช้ข้อมูล (DATA) และความปลอดภัย (Privacy) ต่างก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจยุคใหม่ทำงานได้ราบรื่นขึ้น

LINE แพลตฟอร์มดิจิทัลยอดนิยมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำโซลูชั่น เครื่องมือต่างๆ ไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ได้จัดงาน THAILAND NOW AND NEXT : PREPARING FOR THE CHANGING WORLD บอกเล่าเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมแนะนำเครื่องมือทรงประสิทธิภาพที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตในโลกยุคใหม่ได้

รู้จักเครื่องมือเดิมของ LINE ทำธุรกิจได้แบบมืออาชีพ

ในงาน THAILAND NOW AND NEXT : PREPARING FOR THE CHANGING WORLD ผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ได้แนะนำโซลูชั่นที่เปิดให้ใช้งานอยู่และเปิดตัวโซลูชั่นใหม่หลายตัว ที่จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปในแบบมืออาชีพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เริ่มจากเครื่องมือพื้นฐาน ที่ทุกธุรกิจน่าจะมีกันอยู่แล้วอย่าง LINE Official Account (LINE OA) เครื่องมือหลักในการทำธุรกิจ ใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ทั้งเปิดการขาย ปิดการขาย ในเครื่องมือเดียว ปัจจุบันมีจำนวนการเปิดใช้งานกว่า 5 ล้านบัญชี ซึ่ง 90% ของบัญชีทั้งหมดนับเป็นธุรกิจ SMEs

เครื่องมือถัดมาที่ต้องใช้ คือ LINE Ads Platform (LAP) เครื่องมือลงโฆษณาได้ง่ายๆ บน LINE Ecosystem ที่ธุรกิจสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ เช่น เพิ่มเพื่อน ชวนเข้าชมเว็บไซต์ เป็นต้น เครื่องมือนี้เป็นที่นิยมในกลุ่ม SME เพราะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย กำหนดงบประมาณได้ด้วยตัวเอง

ในขณะที่แบรนด์ใหญ่จะซื้อโฆษณาผ่านมีเดียเอเจนซี่ แต่ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางใด ก็สามารถจัดการเพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

อีกทั้ง ในอนาคตอันใกล้ LINE มีแผนจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าบน LINE Ecosystem เพื่อช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของข้อมูลในการใช้งาน LAP ทำให้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้งาน LAP สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

และสำหรับเครื่องมือใหม่ล่าสุด ที่ถือเป็นไฮไลท์ LINE ได้นำมาเปิดตัวในงาน THAILAND NOW AND NEXT : PREPARING FOR THE CHANGING WORLD คือ Business Manager โซลูชั่นจัดการดาต้าบน LINE ที่จะเป็นส่วนต่อยอดทำให้การสื่อสาร

การทำแคมเปญกับลูกค้า รวมถึงการยิงโฆษณาบน LINE มีประสิทธิภาพ เข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำมากขึ้น รวมถึงเครื่องมืออื่นๆ ที่จะตามมา ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เราสรุปมาให้แล้ว

 

Business Manager เครื่องมือใหม่รับโลกแห่งดาต้า

เมื่อธุรกิจใช้งาน LINE Official Account (LINE OA) และ LINE Ads Platform (LAP) จะเริ่มเกิดการสะสมของข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านพฤติกรรมลูกค้า จำนวนการเข้าถึงโฆษณา จำนวนการคลิกลิงก์ต่างๆ เมื่อธุรกิจหรือแบรนด์สื่อสารออกไป

แต่เดิมข้อมูลเหล่านี้ จะสามารถ Cross กันได้ แค่ 1 บัญชี LINE OA ต่อ 1 บัญชี LAP เท่านั้นผ่านเครื่องมือ MyCustomer แต่วันนี้ LINE ได้เปิดตัว Business Manager เข้ามาแก้ไขปัญหาให้แบรนด์หรือเอเจนซี่ที่มักจะมีมากกว่า 1 บัญชี LINE OA หรือมีมากกว่า 1 บัญชี ให้สามารถส่งหรือรับข้อมูล ระหว่าง LINE Official Account และ LINE Ads Platform หลายบัญชีได้พร้อมกัน

ธุรกิจสามารถนำเอาข้อมูลการใช้งานบน LINE OA ไหนก็ได้ของแบรนด์ตนเอง มาเป็นแหล่งข้อมูล วิเคราะห์ต่อยอดเป็น กลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิง Ads บน LAP ได้ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถนำข้อมูลจาก LAP บัญชีไหนก็ได้ของแบรนด์ตนเอง

ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่คลิกลิงก์ กลุ่มที่เห็นโฆษณา กลับมาทำเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับแคมเปญการสื่อสารที่จะ Broadcast ออกไปผ่าน LINE OA ไหนก็ได้ของแบรนด์ตนเองเช่นเดียวกัน

แต่ทั้งนี้ นักการตลาดหรือเอเจนซี่ก็ควรวางแผนให้ชัด ว่าอยากใช้ข้อมูลจากบัญชีไหน เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นกลุ่มเป้าหมายเพื่อประโยชน์อะไร ให้กับบัญชีไหน ให้ชัดเจน อีกทั้ง Business Manager ยังสามารถสร้างกลุ่ม Audience ของตนเองได้จากการนำเข้าข้อมูลที่แบรนด์มีอยู่เดิม เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เพื่อนำมาเพิ่มเติมเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลที่ได้จากบนบัญชี LINE OA และ LAP ได้อีกด้วย

วิธีการสร้าง Business Manager คือ

หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้ว จะมี Business Manager ID เพื่อบอกว่าเรากำลังใช้งานเครื่องมือใด ซึ่งระบบจะให้แบรนด์ได้เชื่อมโยงบัญชี LINE Official Account และบัญชี LINE Ads Platform ที่ต้องการ เมื่อเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยก็จะแชร์ข้อมูล และสร้างกลุ่ม Target audience ย้อนกลับไปมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้

นอกจากนั้น ธุรกิจยังจะสามารถใช้งาน Business Manager ได้อย่างสบายใจหลังพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนตัว (PDPA) บังคับใช้ เพราะ Business Manager ได้ถูกออกแบบให้รองรับ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ภายในงานยังอัพเดทเครื่องมือ โซลูชั่นอื่นๆ ที่จะเปิดให้ธุรกิจได้ใช้งานในเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็น

MyShop Open API ให้ร้านค้าสามารถเชื่อมต่อข้อมูลและระบบอื่นๆ เข้ากับ MyShop เพื่อการจัดการร้านค้าบนโลกออนไลน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นไปที่การเชื่อมต่อข้อมูลใน 3 ด้าน ได้แก่ ข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ สำหรับร้านค้าหรือแบรนด์ใหญ่ที่มีสินค้าจำนวนมากจะไม่สามารถกรอกรายละเอียดสินค้าทีละชิ้นได้ในระบบ MyShop

ซึ่ง API จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ข้อมูลด้านสต็อคสินค้า API จะเชื่อมต่อเพื่อส่งข้อมูลการซื้อขายซึ่งจะทำให้บริหารจัดการสต็อคของแบรนด์ได้แบบ Realtime ได้มากขึ้น และข้อมูลด้านการสั่งซื้อสินค้า ที่จะทำให้การทำ Co-brand แคมเปญหรือโปรโมชั่น เป็นไปได้บน LINE OA ซึ่ง MyShop Open API จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป

 

Facebook Integration on MyCustomer ให้ธุรกิจสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากบน Facebook เข้ามาเก็บรวมไว้ใน MyCustomer ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ใช้ในการบริหาร 1st Party Data ของแบรนด์ หรือร้านค้า ที่ปัจจุบันมักมีการทำธุรกิจและเปิดร้านบนหลายแพลตฟอร์มทั้งบน Facebook และ LINE

เมื่อเกิดการเชื่อมโยงกัน ธุรกิจจะมีข้อมูลรอบด้าน สามารถใช้ประโยชน์และวิเคราะห์ข้อมูลได้ในภาพกว้างขึ้น เข้าใจลูกค้าผู้บริโภคมากขึ้น เพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น โดยจะเปิดให้บริการในปลายไตรมาสสองของปีนี้

ในงาน THAILAND NOW AND NEXT : PREPARING FOR THE CHANGING WORLD ยังมีเรื่องราวมีประโยชน์อีกมากมายหลายหัวข้อ ที่จะเปิดโลกดิจิทัลยุคใหม่ให้กับธุรกิจ ผู้สนใจสามารถติดตามชมย้อนหลังได้ที่ https://lin.ee/uFtHA5R/wcvn

และติดตามอัพเดทความรู้ ข่าวสารสำหรับผู้ต้องการทำธุรกิจผ่าน LINE ได้ที่ LINE Official Account: @linebizth และ FB Fanpage: LINE for Business

#ThailandNowandNext2022 #LINEforBusiness #LINEBusinessManager

 

 

บทความนี้เป็น Advertorial