Site icon Thumbsup

กนง. มีมติให้ธนาคารคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ต่อปี พร้อมประเมินเศรษฐกิจไทยหดตัว -6.6%

รัฐบาลจะประกาศล็อกดาวน์หรือไม่ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนจากภาครัฐ แต่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับดอกเบี้ยนโยบายให้คงไว้ที่ 0.5% ต่อปี และคาดการณ์ว่าธุรกิจไทยจะยังมีการฟื้นตัวต่อเนื่องแม้จะมีความเสี่ยงต่ำและความไม่แน่นอนสูง

อย่างไรก็ตามต้องประเมินจากสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ ขณะที่ในระยะถัดไปขึ้นอยู่กับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 และพัฒนาการของตลาดแรงงานซึ่งยังมีจำนวนผู้ว่างงานและเสมือนว่างงานอยู่ในระดับสูง

ดังนั้น การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขประเมินภาพรวมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะกลับมาฟื้นตัวชัดเจนในปี 2022 ที่ 23 ล้านคน เศรษฐกิจไทยจึงขยายตัวสูงในปีดังกล่าว ซึ่งทำให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของ COVD-19 ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงกลางปี 2021 ที่ 1% และจะอยู่ใกล้เคียงกับขอบล่างของกรอบเป้าหมายตลอดช่วงประมาณการณ์

ทั้งนี้ ตัวเลขการประมาณการอยู่ภายใต้สมติฐานที่ว่า

กนง. ประเมินว่าสภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูงแต่ยังกระจายตัวไม่ทั่วถึง และมีความกังวลต่อเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดย กนง. ประเมินว่าธุรกิจและครัวเรือนบางส่วนที่ต้องการสภาพคล่องยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนสอดคล้องกับเงินสกุลภูมิภาค

ทั้งนี้ กนง. กังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเร็วจากสภาวะเปิดรับความเสี่ยงของนักลงทุน (risk-on sentiment) และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงเห็นควรให้ติดตามอย่างใกล้ชิดและพิจารณาความจำเป็นของการดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม รวมถึงผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของอัตราแลกเปลี่ยน (FX ecosystem) อย่างต่อเนื่อง

มาตรการภาครัฐและการประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป โดยนโยบายการเงินต้องผ่อนคลายต่อเนื่อง มาตรการทางการเงินและสินเชื่อควรเร่งกระจายสภาพคล่องไปสู่ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ตรงจุดและทันการณ์ อาทิ มาตรการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต รวมทั้งผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เกิดผลในวงกว้าง

ขณะที่มาตรการทางการคลังต้องพยุงเศรษฐกิจโดยไม่ขาดช่วง โดยเฉพาะการเร่งเบิกจ่ายภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควบคู่กับดำเนินการนโยบายด้านอุปทานเพื่อปรับรูปแบบธุรกิจและยกระดับทักษะแรงงาน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน