Site icon Thumbsup

เจาะลึกสถิติ SME ใครรุ่ง-ใครร่วง

sme2

ถึงแม้ว่าบทความในวันนี้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำตลาด แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนในการทำธุรกิจ (ขนาดย่อม) ซึ่งสามารถนำบทความนี้ไปใช้เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจ รวมไปถึงผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจแบบออนไลน์ (E-commerce) ก็ยังสามารถนำข้อเสนอแนะบางข้อไปปรับใช้ได้เช่นกัน

เว็บไซต์ Top-Business-Degrees.net รายงานว่า ในปัจจุบันผู้ที่ทำธุรกิจขนาดย่อมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สามารถทำกำไร (40% ของ SME ทั้งหมด) กลุ่มที่มีผลประกอบการระดับปานกลาง (30%) และกลุ่มที่มีผลกระกอบการขาดทุน (30%) หากลองเจาะลึกลงไปจะพบว่า มีธุรกิจขนาดย่อมที่ปิดตัวลงหลังจากเปิดกิจการภายใน 5 ปีแรกถึง 95% และยังมีอีกกว่า 50% ที่ปิดกิจการภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี

ผลการสำรวจระบุว่ามีธุรกิจเพียงแค่ 9% เท่านั้นที่สามารถดำเนินกิจการต่อไปอีกในระยะเวลา 10 ปี โดยธุรกิจขนาดย่อมที่พบว่ามีความเสี่ยงสูงในการปิดกิจการมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจขายตรง

ธุรกิจประเภทร้านอาหารมีความเสี่ยงที่จะปิดกิจการสูงถึง 60% (ภายในระยะเวลา 3 ปีแรก) ซึ่งในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำก็ส่งผลทำให้ร้านอาหารในสหรัฐฯ ปิดตัวลงไปแล้วถึง 7,158 ร้าน โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้พากันปิดตัวลงก็คือ เจ้าของร้านส่วนใหญ่มีความชำนาญในการทำอาหารแต่ยังขาดทักษะที่ดีพอในด้านการตลาดและการบริหาร อีกทั้งยังไม่มีความสามารถในการระดมทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดถึงความสำเร็จหรือล้มเหลวได้เช่นกัน

ส่วนธุรกิจประเภทค้าปลีก พบว่าธุรกิจค้าปลีกประเภทเสื้อผ้ามีความเสี่ยงในการปิดกิจการสูงถึง 80% (ภายในระยะเวลา 5 ปีแรก) โดยสาเหตุหลักเกิดจากการจัดการและการทำการตลาดที่ไม่มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ซึ่งสิ่งสำคัญในการธุรกิจค้าปลีกคือ ต้องมีการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้า และตั้งอยู่บนทำเลที่ดีมีคนพลุกพล่าน

ปิดท้ายด้วยธุรกิจขายตรง โดยสาเหตุที่นำไปสู่ความล้มเหลวในการทำธุรกิจก็คือ ยอดขายสินค้าปลีกผ่านธุรกิจขายตรงในปัจจุบันที่เหลือเพียงแค่ 20% รวมไปถึงในเรื่องของเจ้าของธุรกิจและพนักงานที่ยังไม่มีการฝึกอบรมที่ดีพอ อีกทั้งยังขาดแรงบันดาลใจและความพยายามในการธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยคุณสมบัติสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจขายตรง คือ มีความสามารถในการขายสินค้าและมีความอดทน

นอกจากนี้เว็บไซต์ Top-Business-Degrees.net ยังได้แนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยเป็นแนวทางในการทำธุรกิจขนาดย่อมให้ประสบความสำเร็จ คือ การเริ่มต้นจากมูลค่าการลงทุนในปริมาณที่พอดี ศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับสถิติต่างๆก่อนการตัดสินใจลงทุน เลือกประเภทสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการบริการเพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้าและบริการที่ร้านอีก

สำหรับผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจขนาดย่อมสามารถตามอ่านตามอ่านรายละเอียดและเคล็ดลับที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน Infofraphic ด้านล่างนี้


ที่มา: Visual.ly