Site icon Thumbsup

8 เหตุผลที่ทำให้นักช็อปออนไลน์ลงมือค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

Online1

มาเรียนรู้และเข้าใจผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ในยุคดิจิตอลร่วมกันผ่านสถิติบนแผนภาพ Infographic เรื่อง Understanding Holiday Shoppers Online ซึ่งพบว่าทั้ง 8 เหตุผลหลักที่ทำให้นักช็อปออนไลน์ลงมือเสิร์ชนั้นสะท้อนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่จะใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำให้การช็อปปิ้งครั้งนั้นไม่เกินงบประมาณ ความสามารถในการหาของขวัญหายาก ขณะเดียวกันก็ต้องการเลี่ยงการเบียดเสียดในร้าน

เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปี นับว่าเป็นเวลาแห่งการช้อปปิ้งและการมองหาของขวัญเพื่อมอบให้กับคนพิเศษ ทุกวันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการหาซื้อของขวัญผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะสามารถวางแผนและควบคุมงบได้ตามที่ตั้งใจไว้ได้แล้ว ยังสะดวกสบายโดยไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมากเพื่อหาซื้อของขวัญอีกด้วย

แนวโน้มนี้เกิดขึ้นชัดเจนในสหรัฐอเมริกา การสำรวจพบว่ายอดการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ในสหรัฐฯ ช่วงปีนี้ (2012) จะเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว (2011) ถึง 16.8% ซึ่งสามารถทำเงินได้กว่า 5.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังคิดเป็นสัดส่วน 24.3% ของการซื้อสินค้าทั้งหมดในช่วงเทศกาล

จากการสำรวจผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าแบบออนไลน์ในแดนลุงแซม พบว่าส่วนใหญ่ใช้อินเทอร์เนตหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อสินค้ามากที่สุด 79% เหตุผลในการเสิร์ชรองลงมาคือเพื่อตรวจสอบโปรโมชันลดราคาสินค้า (73%) รองลงมาคือการอ่านรีวิวสินค้า (67%)

ผู้บริโภคเกิน 60% เสิร์ชอินเทอร์เน็ตเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลผลิตภัณฑ์ ขณะที่ 53% เสิร์ชเพื่อสอบถามสต็อกสินค้า โดย 36% ต้องการติดต่อร้านค้าปลีก พร้อมกับอีก 31% ที่ติดตามว่ามีอีเมลจากร้านค้าเพื่อแจ้งโปรโมชันช่วงวันหยุดหรือไม่ และอีก 28% ที่ต้องการติดตามเว็บไซต์ของร้านค้า

การสำรวจพบด้วยว่าสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงเทศกาล 3 อันดับแรก คือ

  1. สินค้าประเภทเสื้อผ้าและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 53%
  2. สินค้าประเภทของเล่น 32%
  3. สินค้าประดับตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาล 21.3%

ส่วนร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ดูจะมาแรงและน่าสนใจที่สุดอยู่ตอนนี้ก็มี Walmart และ Amazon แต่ดูเหมือนว่า Amazon ยังคงได้เปรียบกว่า Walmart ในเรื่องของราคาสินค้าบางรายการซึ่งถูกกว่า Walmart อยู่ถึง 44%

ส่วนภาพถ่ายสินค้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดความสนใจในการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งการใช้ภาพสินค้าที่ชัดเจนสามารถเห็นได้หลายมุมมองพร้อมมีคำบรรยายที่ตรงตามจริง รวมไปถึงมีรีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากใช้ภาพถ่ายสินค้าแบบทั่วไปแล้วยังมีการนำวีดีโอมาเป็นตัวช่วยในการนำเสนอสินค้าให้น่าสนใจขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้เรื่องราคาและโปรโมชั่นก็เป็นปัจจัยสำคัญลำดับต้นๆที่ช่วยกระตุ้นและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยสามารถสังเกตได้จากช่วงลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ของร้านค้าปลีกออนไลน์ในอเมริกาที่เรียกว่า Cyber Monday ซึ่งมียอดการสั่งซื้อสินค้าถึง 1.02 พันล้านเหรียญภายในระยะเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ตามมาด้วย Green Monday ที่เป็นวันลดราคาสินค้าในวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนธันวาคมก็ทำยอดถึง 954 ล้านเหรียญ และ Free Shipping Day ที่มีโปรโมชั่นจัดส่งสินค้าฟรีก็มียอดตามมาติดๆถึง 942 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

จากผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในอเมริกาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าแบบออนไลน์ในช่วงเทศกาลเพิ่มมากขึ้น โดยดูได้จากยอดการซื้อสินค้าในวัน Cyber Monday, Green Monday รวมไปถึง Free Shipping Day หรือวันจัดส่งฟรี ซึ่งไม่แน่ว่าแนวโน้มนี้อาจจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคในไทยก็เป็นได้?ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชไทยสามารถนำไปปรับใช้ได้ในอนาคต

สามารถดูรายละเอียดทั้งหมดได้จาก infographic ด้านล่างนี้เลย

ที่มา: Lead-Converter