Site icon Thumbsup

Realtime Content เครื่องมือสื่อสารหรืออาวุธสังหาร

การสร้าง Realtime Content  โจทย์ยากที่ Content Creative ต้องกุมขมับ เพราะต้องเค้นไอเดียเเบบด่วนจี๋  ให้กับกระเเสที่มาเเบบไม่ทันตั้งตัว

เเต่ความยากไม่ใช่เเค่คิดไอเดีย เเต่เป็น Process ระหว่างการทำมากกว่า ที่ต้องเร็วติดจรวดก็เพื่อชิงลงก่อนคู่เเข่ง ซึ่งคำว่าเร็วในที่นี้ บางทีเเค่ 10-15 นาทีเท่านั้น หรือถ้าเร่งกว่านี้อาจจะอยู่ที่วินาทีเลยด้วยซ้ำ

เเล้วเคยสังเกตกันไหมว่า  ทำไมหลายเพจถึงทำ Realtime Content ได้ทั้งเร็วเเละเฉียบ

อย่างเช่น ทีมออนไลน์ของ Major Group ที่เร็วทุกกระเเสเเละคมทุกมุก หรือ Tops Supermarket ที่นอกจากไอเดียดีเเล้ว

ภาพยังออกมาสวยมีสตอรี่เหมือนไม่ได้ทำภายใน 10 นาที ซึ่งความจริงก็คือพวกเขาไม่ได้ทำภายใน 10 นาทีไงล่ะ

เราจึงจะมาไขความลับว่า Realtime Content เจ๋งๆ เค้าเริ่มต้นทำกันยังไงเเละเเน่ใจหรือเปล่าว่าสิ่งที่ทำนั้น ส่งผลดีต่อเเบรนด์ได้จริงๆ

1. รู้ทันกระเเสที่กำลังจะฮิต

ถ้าไม่ติดตามกระเเสก็ต้องบ๊ายบายทันที ซึ่งทักษะสำคัญที่คนทำงานสายดิจิทัลควรมีคือการติดตามกระเเส  เพราะโซเชียลเปลี่ยนเร็วทุกเสี้ยววินาที (ไม่จำเป็นต้องตามตลอด) จึงไม่ควรตกเทรนด์กระเเสหลัก

เเต่ความลับคือการที่เราอัพเดทกระเเสไม่ใช่ให้เราอยู่ในกระเเส เเต่รู้เพื่อ “นำกระเเส” ต่างหาก เพราะเราจะต้องวางเเผนคิด Content  ไปลงในช่วงกระเเสนั้นเริ่มบูมทันที

เห็นตัวอย่างได้ชัดจาก Realtime Content ที่มาจากละครอย่าง เลือดข้นคนจางหรือบุพเพสันนิวาส ที่จะลงจังหวะก่อนหรือละครออนเเอร์พอดี เพื่อรับทราฟฟิคที่ละครได้สร้างไว้ให้เข้าเพจตัวเอง

ฉะนั้นเมื่อเราวางเเผนเเล้วว่าจะเล่น Realtime Content ให้ปักหมุดเลยว่า เดือนนี้มีวันสำคัญอะไรที่ คนจะอินบ้าง ละคร หนัง รายการ ที่กระเเสต้องมาเเน่ๆ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ความสามารถการจับกระแสโซเชียลเราดีมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกสิ่งสำคัญที่คนทำงานสายดิจิทัลควรมี

2. ทำก่อน ชนะก่อน

เมื่อเราปักไว้เเล้วว่าจะมีกระเเสอะไร เข้ามาช่วงไหน ต่อมาคือการรีเสิร์ช เพื่อหาประเด็นที่น่าสนใจเเละน่าเล่น ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้ทักษะจับกระแสค่อนข้างเยอะเเละอาศัยประสบการณ์ค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ยังต้องจับประเด็นเเละจับเทรนด์ให้ถูกต้องด้วย เพราะ Realtime Content ที่เจอปัญหายอดคนอ่านน้อยนั้นมีเป็นร้อย และหนึ่งในนั้นไม่ควรเป็นเพจเรา

ดังนั้น เราต้อง “เก็ต” ไอเดีย เพื่อปั้น Content ให้ได้ก่อนถึงวันที่เกิดกระเเส โดยเรามีเวลามากกว่า 10-15 นาที เพื่อส่งให้ลูกค้าปรู๊ฟ มีเวลาเเก้ไข เพื่อเป็น Realtime Content ที่สมบูรณ์ที่สุด

3. เกี่ยวกับเเบรนด์ไหม ?

อย่ามัวหลงกับยอด Like&Share เยอะๆ ถ้าคนที่ Engagement ไม่ใช่กลุ่ม Target ของเราหรือถ้าคิดว่าถึงไม่ใช่ Target เเต่ก็ทำให้ Content เราไปไกล ซึ่งจริงๆ เเล้วเหมือนเป็นการหวังน้ำบ่อหน้ามากกว่า

หากคนที่ Like&Share ไม่ใช่กลุ่ม Target ก็ยากที่คนรอบตัวเค้าจะเป็น Target เช่นกัน  

ดังนั้นจึงต้องตั้งเป้าหมายว่า Realtime Content ของเราตอบโจทย์อะไรให้กลุ่ม Target เเละเกี่ยวกับเเบรนด์มั้ย ถ้าไม่ก็ถอยทัพดีกว่า

อย่างเช่น กรณีหมูโสร่งจากละครบุพเพสันนิวาส ที่ร้านอาหารหลายเเบรนด์โปรโมทกันตรึม เเต่พอลูกค้าสนใจอยากสั่งกิน และเมื่อถามว่าในร้านมีเมนูนี้ไหม กลับไม่มีเสียอย่างนั้น ซึ่งกระแสแบบนี้อย่าเสี่ยงดีกว่า

นอกจากนี้ Reach เเละ Engagement ที่ดีต้องส่งผลต่อเเบรนด์เเละมีเเนวโน้มที่จะเป็นลูกค้าเรา มากกว่ามียอด stat สูงๆ เเต่ยอดขายเป็น 0

ทั้งนี้ Realtime Content ถือว่าเป็นลูกเล่นที่ทำขึ้นเพื่อสร้างสีสันให้เพจเพียงชั่วข้ามคืน ไม่ใช่ Content หลักที่ควรจะนำมาเล่น หรือถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บทุก Realtime Content ก็ต้องเก็บทุกกระเเส

เเต่ก็ต้องคำนึงด้วยว่า Target ของเราจะอินทุกกระเเสที่เราเล่นมั้ย ไม่อย่างนั้น Realtime Content ที่จะส่งผลดีต่อเพจจะกลายเป็นเครื่องมือสังหารเพจแทน

นอกจากเสียเวลาเก็บทราฟฟิคปลอมเเล้ว อาจจะทำให้เราหลงประเด็นการทำการสื่อสาร ติดอยู่กับดักโซเชียลเเทน