Site icon Thumbsup

กระทิงแดง เจาะกลุ่ม Gen Z ส่ง “เรดบูลฮอลล์XS” ลุยตลาดชูกำลังพรีเมียม

TCP เปิดเกมรุกตลาดชูกำลังมูลค่า 2 หมื่นล้าน จับมือฮอลล์ เอ็กซ์เอส ปล่อย 2 รสชาติใหม่ กลุ่มพรีเมี่ยม เสริมพอร์ตรับแผน 3 ปี เร่งปล่อยสินค้าใหม่ 10 รายการ พร้อมทุ่ม 100 ล้าน เน้นทำสื่อผ่านแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก-อีสปอร์ต เจาะ Gen Z ตั้งเป้าสิ้นปี 2565 เติบโต 10%

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มธุรกิจ TCP บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง เรดดี้ โสมพลัส และสปอนเซอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 20,000 ล้าน ในช่วง 7 เดือน (มกราคม-กรกฎาคม) โตขึ้น 3% ซึ่งเป็นการกลับมาคึกคักในรอบ 10 ปี

ขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 21% ซึ่งอยู่อันดับสอง โดยหลัก ๆ มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่ไดรฟ์ตลาด และสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ได้กว่า 50% จากการปรับรสชาติ และแพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัยมากขึ้น จากที่ผ่านมาสินค้าชูกำลังจะค่อนข้างนิยมในกลุ่มคนใช้แรงงานเป็นหลัก โดยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่เติบโตสูงสุด คือมาเลเซีย 40% ตามด้วยเวียดนาม 9%, จีน 5% และไทยโต 3%

นายสราวุฒิกล่าวว่า เครื่องดื่มชูกำลังเป็นเซ็กเมนต์ที่มีโอกาสขยายตัวอีกมาก หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงการเปิดประเทศ ทำให้สามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น จากโอกาสดังกล่าว บริษัทจึงนำสินค้า “เรดบูล” จับมือกับ “ฮอลล์ เอ็กซ์เอส” บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชั่นนอล (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้กลยุทธ์ collaboration

โดยได้นำจุดแข็งทั้ง 2 แบรนด์ มาพัฒนาเครื่องดื่มเอเนอร์จี้ดริงก์ ในชื่อ Red Bull Halls XS มี 2 รสชาติคือ กลิ่นวอเตอร์เมลอน และเมนโทลิปตัส ไม่มีน้ำตาล วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ในราคา 15 บาท เน้นเจาะกลุ่ม Gen Z อายุ 18-24 ปี ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการร่วมมือกัน ผลิตภัณฑ์ลูกอม Halls XS Red Bull ที่เปิดตัวเมื่อปี 2564 ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี

#Energenius

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดโปรดักต์ดังกล่าว บริษัทเตรียมทุ่ม 100 ล้านบาท เน้นใช้สื่อดิจิทัล บนแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก และอีสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเป็นหลัก ผ่านแคมเปญ #Energenius เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่ม Gen Z ตลอดจนการเข้าไปสนับสนุนทีม Bacon Time ทีมอีสปอร์ตของคนรุ่นใหม่ โดยตั้งเป้าในแง่ของยอดขาย 11%

นายสราวุฒิกล่าวต่อถึงแผนการดำเนินงานในอีก 3 ปีข้างหน้า (ระหว่างปี 2565-2567) บริษัทยังเดินหน้าตามแผนเดิม โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 10 รายการ ภายใต้แบรนด์กระทิงแดง เครื่องดื่มชูกำลัง เน้นไปยังกลุ่มพรีเมี่ยม โดยโฟกัสไปยังเทรนด์สุขภาพ ด้วยสูตรน้ำตาล 0% และยังสามารถช่วยลดภาษีน้ำตาลได้ในอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจุบันเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมประกอบด้วย แบรนด์เรดดี้ กระทิงแดง โสมพลัส มีอยู่ประมาณ 10% ในพอร์ตโฟลิโอ และยังต้องการขยายการทำตลาดครื่องดื่มชูกำลังในประเทศใหม่ ๆ มากขึ้น ซึ่งบริษัทต้องการขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเอเชียภายใน 3 ปี โดยจะเน้นสร้างความแตกต่างทั้งรสชาติและภาพลักษณ์ให้ทันสมัย รวมถึงส่งแบรนด์อื่น ๆ ภายใต้ House of Great Brands เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดเอเชีย

“ต้องยอมรับว่า ความท้าทายในตลาดตอนนี้ แม้เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงโควิด แต่ยังต้องเจออุปสรรคเรื่องต้นทุนที่ปรับตัวขึ้นสูง แน่นอนว่าส่งผลประกระทบต่อการขนส่งกระจายสินค้า ดังนั้น ต้องคุมเข้มการบริหารจัดการ เพื่อรับมือต่อสถานการณ์ต่อไป”

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าภายใน 2565 เติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา ที่เติบโตซิงเกิลดิจิต โดยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังยังคงเป็นพอร์ตใหญ่ทำรายได้หลักให้บริษัท

โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจำหน่ายทั้งในไทยและทั่วโลกประกอบด้วย 6 กลุ่ม เครื่องดื่มให้พลังงาน ได้แก่ กระทิงแดง, เรดดี้, โสมพลัส และวอริเออร์

ตามด้วยกลุ่มเครื่องดื่มสปอร์ตดริงก์ สปอนเซอร์ ถัดมาคือกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริงก์ แมนซั่ม, แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์ และกลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม เพียวริคุ และผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน ซันสแนค