Site icon Thumbsup

Central ลง 50 ล้านเปลี่ยน “โรบินสันเมกาบางนา” เป็น “เซ็นทรัลเมกาบางนา”

คนที่เคยไปเยือนเมกาบางนา ย่อมเห็นศูนย์การค้าสองฝั่งที่แบ่งเป็น “ฝั่งอิเกีย” กับ “ฝั่งโรบินสัน” ซึ่งทั้งสองกลุ่มต่างก็มีลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และการที่โรบินสันเข้ามาอยู่ภายในร่มของเซ็นทรัลนั้น ก็ต้องมีการแบ่งโพสิชั่นของธุรกิจให้ชัดเจนข้ึน เพราะทั้งสองธุรกิจต่างก็เป็นดีพาร์ทเมนท์สโตร์เหมือนกัน และการเปลี่ยนจากโรบินสัน มาเป็น เซ็นทรัล ที่เมกาบางนานั้น น่าจะช่วยเพิ่มความทันสมัยรองรับความเป็นนิวนอร์มอลได้ดีขึ้น

เปลี่ยนเพื่อลดสาขาซ้ำซ้อน

คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ได้ให้รายละเอียดว่า ปัจจุบัน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีสาขาทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 51 สาขา ซึ่งนับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีจำนวนสาขามากที่สุด และครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี มีผลประกอบการเป็นที่พอใจ และมีการพัฒนาธุรกิจรวมถึงการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

การปรับรูปแบบของธุรกิจใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนตราสัญลักษณ์และยกระดับภาพลักษณ์ใหม่ของ “โรบินสัน” และ “ห้างเซ็นทรัล” ในบางสาขา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยในปีนี้ จะเริ่มปรับสาขาแรกคือ “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เมกาบางนา” ซึ่งสาขานี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ได้มีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับการเปิดศูนย์การค้าเมกา บางนา (เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555)

ซึ่งนับเป็นสาขาที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งอยู่ในศูนย์กลางชุมชนที่ทันสมัย มีอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการ ตั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติ มีสถานศึกษาขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงมีระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า MRT รองรับ ซึ่งในอนาคตพื้นที่ตรงนี้จะมีการขยายตัวค่อนข้างสูงและกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกจึงเหมาะสมในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ให้ “โรบินสันเมกาบางนา” เปลี่ยนเป็น “เซ็นทรัลเมกาบางนา”

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าโรบินสันในย่านดังกล่าว ยังมีสาขาใกล้เคียงไว้มอบความสะดวกในการจับจ่ายสินค้าและบริการได้อีก 3 สาขา คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง และศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ

นอกจากนี้ การปรับบิสสิเนสโมเดลใหม่ของโรบินสัน (New Business Model) ยังควบรวมไปถึงการหา New Channel ใหม่ๆ เพื่อรองรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้การมอบความสะดวกสบายแก่นักช้อปอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งปัจจุบันโรบินสันได้พัฒนาแพลตฟอร์มการขายทั้ง 4 ช่องทางให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแก่นักช้อปมากที่สุด

  1. ROBINSON ONLINE (www.robinson.co.th)
  2. ROBINSON FACEBOOK LIVE ช้อปผ่าน FACEBOOK INBOX ROBINSON DEPARTMENT STORE
  3. ROBINSON CHAT & SHOP ที่ LINE @ROBINSON
  4. ROBINSON CALL & SHOP ช้อปผ่านโทรศัพท์ ที่หมายเลข 02-160-3933

รวมทั้งบริการรับสินค้าง่ายๆ ทั้ง บริการส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ และ CLICK & COLLECT รับสินค้าที่จุดบริการลูกค้าสาขาใกล้บ้าน โดยช่องทางเหล่านี้จะเข้ามาช่วยเสริมทัพการตลาดของโรบินสันให้มีความแข็งแกร่ง และสามารถตอบรับ NEW NORMAL LIFE และสถานการณ์ DIGITAL DISRUPTION ได้อย่างเหนือชั้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โรบินสันก้าวสู่การเป็น ‘ออมนิชาแนล ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’ ที่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งเป้าไว้ในอนาคตได้อีกด้วย

รองรับลูกค้าไลฟ์สไตล์ใหม่

ทางด้านของ คุณณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล เผยว่า “ห้างเซ็นทรัล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับให้ลูกค้าในย่านบางนา-ตราดนี้ โดยพร้อมเปิดให้บริการ ห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา วันที่ 2 ก.ค. 63 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพสูง ชอบพาครอบครัวมาใช้ชีวิตภายในห้าง

ทั้งนี้ วันที่ 2 ก.ค.63 เป็นการทยอยปรับปรุงพื้นที่ในเฟสแรก (Minor renovation) เนื่องจากห้างเซ็นทรัลมีแผนศึกษาเพื่อที่จะขยายขนาดพื้นที่สาขาร่วมกับศูนย์การค้าเมกาบางนา พร้อมเตรียมทำการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่อีกครั้ง ในช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2564 เพื่อส่งมอบบริการสะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกครอบครัวให้สามารถมาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขเสมือนบ้านหลังที่ 2

ปัจจุบัน พื้นที่ย่านบางนา-ตราด ถือเป็นทำเลทองเพราะเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง ทั้งยังเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเชื่อมต่อหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเป็นหน้าด่านก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะเป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก มีโครงการบ้านจัดสรรมากถึง 18 โครงการ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เดินทางเพียง 25 นาที ทั้งจำนวนประชากรในย่านนี้ มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท โดยจัดสรรเป็นงบประมาณในการตกแต่ง ปรับโฉมใหม่ งบประมาณการตลาด ส่งเสริมการขาย กิจกรรม โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิดให้บริการจะสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 20% ภายในปี 2564”

โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของห้างเซ็นทรัลเมกาบางนา จะเน้นกลุ่มคนไทยที่เป็นคนทำงาน และครอบครัวคนรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และอาศัยในย่านนี้ ซึ่งจะต่างกับ Target ของห้างเซ็นทรัลบางนา ที่จะเน้นกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่มีหลายเจนเนอร์เรชั่น และเนื่องด้วยฐานข้อมูลบัตรเดอะวัน เป็น Big Data ที่แข็งแกร่ง มีจำนวนมากถึง 16 ล้านคน ทำให้เราเห็นถึงความต้องการ และกำลังซื้อของลูกค้า จึงได้นำแบรนด์ใหม่ๆเพิ่มเข้ามาให้ลูกค้าได้เลือกช้อป