Site icon Thumbsup

ซิซซ์เล่อร์ มองเทรนด์การนั่งทานที่ร้านช่วงปลายปีจะเป็นโอกาสพลิกฟื้นของธุรกิจอีกครั้ง

เมื่อภาครัฐประกาศคลายล็อกดาวน์ ธุรกิจร้านอาหารย่อมมีความคาดหวังว่าสถานการณ์จะฟื้นกลับมาอีกครั้ง หลังต้องหันไปช่องทางเดลิเวอรี่สร้างโอกาสทางรายได้แทน ทำให้มีการเติบโตที่ดีขึ้นเฉลี่ย 3 เท่าต่อเดือน และเชื่อว่าหลังจากเปิดให้ทานที่หน้าร้านแบบเดิมจะมีโอกาสพลิกฟื้นได้อีกครั้ง

คุณกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวว่า ตลอดทั้ง 3 ไตรมาสของปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญกับความท้าทายของการให้บริการท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง

ซิซซ์เล่อร์เป็นหนึ่งในธุรกิจร้านอาหารที่ได้มีการปรับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยตลอดทั้ง 3 ไตรมาสปี 2564 ซิซซ์เลอร์มียอดเดลิเวอรี่มีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

อีกทั้งหลังคลายล็อคดาวน์เมื่อเดือนกันยายนจำนวนผู้บริโภคกลับมาใช้บริการที่ร้านเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมมีการเติบโตราว 20% โดยเติบโตเป็น 2 เท่าจากต้นปี และเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

ตามปกติแล้ว ภาพรวมรายได้ของซิซซ์เล่อร์ในช่วงไตรมาสสี่ของทุกปีจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 40% แต่เพราะก่อนหน้านี้เจอการล็อกดาวน์ทำให้การนั่งทานในร้านการเติบโตลดลงและไปเติบโตด้านเดลิเวอรี่แทน

ทั้งนี้ การกระตุ้นโปรโมชั่น October Fest ช่วงปลายปี พร้อมกับมาตรการคลายล็อกดาวน์ก็น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กลับมาพยุงภาพรวมทั้งปีได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เซ็ทเมนูใหม่ครั้งนี้น่าจะช่วยตอบโจทย์ชาวไทยที่เดินทางไม่ได้ กับชาวต่างชาติที่อยู่เมืองไทยมานานคิดถึงอาหารยุโรป

ด้วยพฤติกรรมการรับประทานอาหารกับครอบครัวนั้น ซิซซ์เลอร์จะเป็นที่นิยมในการทานมื้อเย็น เดิมสัดส่วนการทานจะเป็น มื้อเย็น 60% มื้อกลางวัน 40% ช่วงที่ผ่านมาคนกลัวกลับบ้านไม่ทันเคอร์ฟิวจึงลดปริมาณการมาเป็นกลุ่มครอบครัวลง

สัดส่วนคนที่มานั่งทานจากเดิม อยู่ที่ 4-7 คน ตอนนี้คนมานั่งทานที่ร้านลดลงเหลือ 2-3 คน และยอดใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ยอยู่ที่ 400 บาทต่อคน ซิซซ์เล่อร์ จึงมีการทำแพคราคาที่ไม่สูงมาก เพื่อจับตลาดผู้บริโภคระดับกลางและสูง

คุณนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ใน เครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ทำให้อายุของฐานลูกค้าเด็กลง จากเดิมฐานลูกค้าหลักเป็นครอบครัว แต่พอช่วงโควิด-19 ก็จะมีลูกค้าสั่งแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษา เฟิร์สจ็อบเบอร์ การสั่งแบบเดลิเวอรี่ จะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างละครึ่ง เพราะต้องการเมนูอาหารจานเดียวและสะดวกในการทานคนเดียวที่บ้าน ช่วงอายุผู้ใช้บริการจากเดิมอยู่ที่ 25-49 ปี ตอนนี้ลดลง 20 – 44 ปี

ดังนั้น ในช่องทางออนไลน์เราจึงมีการทำเมนูสำหรับทานคนเดียวมากขึ้น เช่น อาหารจานเดียว สลัดรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากทานคนเดียว แต่ก็มีการจัดเซ็ตสำหรับทานเป็นกลุ่มใหญ่เช่นกัน แต่ช่วงของราคาก็จะไม่สูงมาก เป็นช่วงราคาที่จับต้องได้ตั้งแต่ 100 – 700 บาท

อย่างไรก็ตาม ซิซซ์เลอร์ มีการทำแคมเปญเมนูอาหารใหม่ทุก ๆ 2 เดือน เพื่อสลับรสชาติใหม่ๆ ให้ลูกค้ารู้สึกแปลกใหม่ แต่ถ้าเมนูไหนได้รับความนิยมก็จะทิ้งไว้นานกว่าปกติแต่ก็ไม่เกิน 2.30 เดือน หากเมนูนั้นเป็นที่ชื่นชอบมาก ก็จะมีการเวียนกลับมาให้บริการซ้ำหรือบรรจุในเมนูหลักก็มีเช่น สเต็กเนื้อ หรือซี่โครงหมู ช่วงแรกเป็นเมนูโปรโมชั่นแต่ลูกค้าชอบมากเราก็นำมาบรรจุในเมนูหลัก

ในช่วงปลายปีแบบนี้ แม้ว่าจะมีความต้องการกลับมานั่งทานที่ร้านมากขึ้น แต่ซิซซ์เลอร์ก็ไม่ทำราคาที่สูงเกินไป เพราะช่วงนี้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เราจึงทำราคาให้อยู่ในช่วง 299 – 799 บาท ซึ่งมีลูกค้าบางกลุ่มชอบสเต็กดีๆ ก็รับได้กับสินค้าราคาสูง แต่เฉลี่ยการรับประทานในร้านจะอยู่ที่คนละ 400 – 500 บาท แต่ช่วงก่อนหน้านี้ไปเน้นหนักที่เดลิเวอรี่ ค่าเฉลี่ยต่อหัวก็จะลดลงที่ 199 บาทหรือกลุ่มพรีเมียมก็จะเฉลี่ย 350 บาท เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่ทานคนเดียวมากขึ้น

ทั้งนี้ ลูกค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมีพฤติกรรมแตกต่างกัน บางคนเพิ่งเข้ามาทานที่ร้านหรือเพิ่งรู้จักซิซซ์เลอร์ เราก็จะทำโปรโมชั่นให้จับต้องง่าย รูปแบบการใช้จ่ายหรือแคมเปญก็จะไม่เหมือนกัน เช่น บางสาขาจะสั่งเมนูแถมเครื่องดื่มรีฟิลฟรีเลย เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับการเข้ามาทานครั้งแรก ซึ่งเรามีการศึกษาพฤติกรรมและความแตกต่างของลูกค้าแต่ละพื้นที่ก่อนการขยายสาขาหรือจัดแคมเปญ

ทางด้านของเมนูประเภท Plant Based ก็เริ่มมีความนิยมมากขึ้น ด้วยรสสัมผัสของแต่ละเมนูที่เราสร้างสรรค์เพื่อคนรักสุขภาพก็ช่วยปรับภาพลักษณ์การเป็นอาหารรสชาติจืด มาเป็นเมนูที่จัดจ้านถูกปาก เมื่อประกอบกับวัตถุดิบที่สดใหม่อย่างสลัดต่างๆ ทำให้ซิซซ์เลอร์เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ ถือว่าตอบโจทย์ด้าน Positioning ของเราด้วย

นอกจากนี้ เรื่องวัตถุดิบที่เป็นสลัดและหลายๆ องค์ประกอบเราใช้การสั่งซื้อภายในประเทศแม้ช่วงที่ผ่านมาจะเจอปัญหาบ้าง แต่ก็ลดต้นทุนเรื่องการนำเข้าได้แต่ส่วนประกอบ หรือสารปรุงแต่งที่มีคุณภาพของผู้ผลิตในไทยก็มีมาตรฐานที่ดีทำให้เราเจอผลกระทบเรื่องซัพพลายเชนไม่เยอะและบริหารจัดการได้เช่นเดิมแล้ว

อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่า ธุรกิจของซิซซ์เลอร์ยังคงเป็น Top of Mine ของลูกค้าในกลุ่ม Western Food แบบ Dining เบอร์หนึ่งในใจของลูกค้าแน่นอน