Site icon Thumbsup

ตามไปดู Sophos รับมือวิกฤติ WannaCry เมื่อภัยเรียกค่าไถ่กระทบแบรนด์

กลายเป็นปัญหามัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ใหญ่ระดับโลกไปแล้วสำหรับ WannaCry โดยการโจมตีครั้งนี้ได้ทำให้ หน่วยงานขนาดใหญ่ที่ดูแลด้านสุขภาพอย่าง NHS ของอังกฤษไปจนถึงบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป และเอเชีย “ทำงานไม่ได้” ซึ่งจุดร้ายแรงที่สุดน่าจะเป็นการทำให้สถานพยาบาลไม่สามารถผ่าตัด หรือรักษาคนไข้ได้ด้วย

บริษัท Sophos ซึ่งดูแลระบบรักษาความปลอดภัยให้กับ NHS กลายเป็นอีกหนึ่งชื่อที่ถูกสังคมเพ่งเล็ง โดยก่อนหน้านี้ Sophos ได้เคยแสดงแบนเนอร์ขนาดใหญ่บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทว่า “the NHS is totally protected with Sophos” ล่าสุดจากกรณี WannyCry ทาง Sophos ได้เปลี่ยนข้อความดังกล่าวแล้ว เป็น

“Sophos understands the security needs of the NHS”

ซึ่งถือเป็นการปรับตัวอย่างรวดเร็ว แถมวิกฤตินี้ยังทำให้หุ้นของ Sophos พุ่งขึ้นถึง 8% ด้วย

ทั้งนี้ การโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry จะทำโดยการเข้ารหัสไฟล์ข้อมูล และขอให้ผู้ใช้จ่ายค่าไถ่ 300 เหรียญสหรัฐฯ ในรูปแบบของบิตคอยน์ (bitcoin) โดยจดหมายเรียกค่าไถ่ระบุว่ายอดเงินเรียกค่าไถ่จะเพิ่มขึ้นสองเท่าหลังจากที่เวลาผ่านไป 3 วัน และถ้าหากไม่ได้จ่ายค่าไถ่ภายใน 7 วัน ไฟล์ที่เข้ารหัสไว้ก็จะถูกลบทิ้ง

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามากมายในองค์กรต่าง ๆ นั้น Symantec บริษัทซีเคียวริตี้ได้อธิบายว่า เพราะ WannaCry สามารถแพร่กระจายตัวเองภายในเครือข่ายองค์กร โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องดำเนินการใดๆ โดยอาศัยช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows ตัวเก่า ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นตัวล่าสุดจึงมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

นอกจากนี้ Symantec ยังได้ให้แนวทางสำหรับการป้องกันมัลแวร์เรียกค่าไถ่มาพร้อมกันด้วย ดังนี้

ที่มา: Register