Site icon Thumbsup

สัมภาษณ์พิเศษ Beatrobo Startup แดนอาทิตย์อุทัย! กับประสบการณ์ใหม่ฟังเพลงบนโลกออนไลน์

Music Community ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป ผู้อ่านชอบบริการของรายไหนเป็นพิเศษ, อะไรเป็นจุดดึงดูดให้คุณอยู่กับบริการนั้นเอ่ย สำหรับ Beatrobo หนึ่งใน Music Community จากแดนอาทิตย์อุทัยนำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลงร่วมกับเพื่อนๆ อาศัยหุ่นยนต์น่ารักๆ เป็น Avatar ตัวแทนเราเก็บ Music Playlists ที่เราชื่นชอบโดยการดึงจากเพลงต่างๆ ที่เรา Like บน Facebook มาให้เลย ไม่ต้องเสียเวลา! และเชื่อมต่อ Playlists ของเพื่อนๆ ได้ด้วย

Beatrobo เป็นหนึ่งใน Startup แดนอาทิตย์อุทัยก่อตั้งโดย Hiroshi Asaeda ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้สร้าง Secondlife Community รายแรกในญี่ปุ่น และมีประสบการณ์เดินสายออกงานมาหลายประเทศรวมถึงงานใหญ่อย่าง SXSW 2012 (South By Southwest) และล่าสุดก็เป็น 1 ใน 10 Startups ที่ได้รับคัดเลือกให้ Pitch ในงาน Echelon 2012 ด้วย ทีมงาน thumbsup ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เกี่ยวกับบริการตัวนี้ มันมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ลองไปติดตามกันค่ะ

thumbsup: Beatrobo คืออะไร และไอเดียของบริการนี้มาจากไหน?
Mr.Asaeda: สวัสดีครับ Beatrobo เป็นบริการที่เปลี่ยนประสบการณ์การฟังเพลงบนโลกออนไลน์ จับเอา Music Playlists ไว้กับหุ่นยนต์ตัวน้อยที่เป็นเสมือนตัวแทนเราบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งมันสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ ของเราได้ด้วยนะ ไอเดียนี้มาจากเวลาที่คุยกันเรื่องเพลงกับเพื่อนๆ มันจะคุยต่อยากเลยนะถ้าเพลงนั้นไม่เคยฟังหรือรู้จักมาก่อน มันน่าจะมีวิธีที่สะดวกกว่านี้ในการที่จะฟังเพลงและแสดงความเห็นร่วมกันกับเพื่อนได้

thumbsup: คุณเคยเห็นบริการในลักษณะคล้ายๆ แบบนี้หรือเปล่า? ว่าง่ายๆ ก็คู่แข่งนั่นเอง
Mr.Asaeda: มีบริการในลักษณะของ Music Playlist และบริการด้านเสียงเพลงที่มี Avatar อยู่แล้วครับ แต่ของผมเป็นรายแรกที่สร้างประสบการณ์การฟังเพลงแบบใหม่ในลักษณะของ Social Game และไม่จำเป็นที่เพื่อนของคุณต้องออนไลน์เล่นบริการนี้พร้อมๆ กับคุณก็ได้ แต่คุณก็สามารถเชื่อมต่อและฟัง Playlist ของพวกเค้าได้

thumbsup: อะไรเป็นจุดเด่นอย่างอื่นอีกบ้าง?
Mr.Asaeda:? คุณสามารถฟังเพลงแบบที่ไม่ต้องคอยค้นหาแล้ว add เพลงเข้ามาได้ อารมณ์คล้ายๆ กับคุณฟังวิทยุ แต่ว่าเพลงที่เล่นให้คุณฟังเป็นเพลงโปรดของเพื่อนคุณ และคุณสามารถพูดคุยกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับเพลงที่พวกคุณฟังร่วมกันได้

thumbsup: Business Model ของคุณคืออะไร? หาเงินด้วยวิธีไหน?
Mr.Asaeda: Business Model ของเราเป็นการขาย Playlist แต่เนื่องด้วยรูปแบบนี้คนไม่คุ้นเคยกัน เราปรับมันในลักษณะของ Virtual Goods อย่าง Avatar ตั้งใจว่าจะตั้งราคาไว้ที่ประมาณ 1 เหรียญสหรัฐฯ และ อนาคตจะมี Beat Plug ประมาณ 10-20 เหรียญสหรัฐฯ

[thumbsup: Beat Plug เป็น Gadget ที่หน้าตาเป็นหุ่นยนต์ค่ะ สามารถเสียบเข้ากับที่เสียบหูฟัง iPhone และมันจะทำการเล่น Playlist ของหุ่นยนต์ตัวนั้นบนเครื่อง iPhone ที่มีแอพพลิเคชั่นของ Beatrobo ลงไว้ได้ ,ใช้แลกเปลี่ยน Playlist กับเพื่อนๆ ได้สบายเลย (ตัวเพลงถูกเก็บบนอินเทอร์เน็ต Beat Plug เพียงแค่ระบุว่าเป็น Playlist ของใคร) นอกจากนี้ในงาน Echelon เราได้เห็น Mr.Asaeda พูดถึงช่องทางการหารายได้อีกแบบคือการขาย Branded Robot หุ่นยนต์เฉพาะของนักร้อง รวมถึงการหารายได้จากค่าโฆษณด้วย]

thumbsup: ช่องทางการโปรโมตบริการของคุณในต่างประเทศ?
Mr.Asaeda: แผนของผมคือการโปรโมตร่วมไปกับ Partner ตามคอนเสิร์ตต่างๆ , จับมือกับกลุ่มศิลปิน บริการของ Beatrobo เนื่องจากเป็น Web service อยู่แล้วสามารถเข้าจากที่ใดของโลกก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต

thumbsup: ปัจจุบันนี้มีสมาชิกกี่ราย และส่วนใหญ่มาจากในประเทศหรือนอกประเทศ
Mr.Asaeda: ตอนนี้มีคนสมัครมาใช้บริการมากกว่า 1หมื่นรายครับ และส่วนใหญ่ก็มาจากต่างประเทศไม่ใช่ญี่ปุ่นอย่างเดียว

thumbsup: กลุ่มลูกค้าของคุณส่วนใหญ่อายุอยู่ที่เท่าไหร่
Mr.Asaeda: จริงๆ ผมก็อยากให้ทุกคนที่รักเสียงเพลงใช้บริการของเราทั้งนั้น แต่ตอนนี้กลุ่มลูกค้าของผมคิดว่าส่วนใหญ่อายุจะอยู่ที่ประมาณ 15-30 ปี

thumbsup: พอจะแชร์เรื่องเงินทุนของบริการนี้ได้ไหม
Mr.Asaeda: เราได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนล่าสุดช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาครับประมาณ 612,500 เหรียญสหรัฐฯ

thumbsup: อนาคตมีแผนจะพัฒนาอะไรต่อ ?
Mr.Asaeda: ตอนนี้ผมกำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน iPhone ให้แล้วเสร็จและเปิดตัวไปควบคู่กับ Beatplug อยู่

thumbsup: คุณสนใจตลาดไทยมากน้อยแค่ไหน?
Mr.Asaeda: คือทุกคนก็รักเสียงเพลงนะครับ ไม่ว่าประเทศไหนๆ และก็เชื่อว่าบริการของเราน่าจะเหมาะกับคนไทย เพราะสามารถค้นหาเพลงต่างๆ จากเพื่อนของคุณได้โดยตรง [thumbsup: อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงแผนที่จะเข้ามาโปรโมตที่บ้านเราแต่อย่างใด]

thumbsup: ช่วยแบ่งปันประสบการณ์หลังจากร่วมงาน Echelon 2012 ที่ผ่านมา และจะมีแผนไป Pitch งานที่ไหนอีกบ้างไหม?
Mr.Asaeda: ขอบอกเลยครับว่า Echelon 2012 เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ได้พบผู้คนมากมายแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขารักในการออกแบบบริการของเราและเข้าใจปัญหาที่เราพบ ซึ่งตอนนี้เรากำลังอยู่ช่วงพัฒนาอีกสักระยะเพื่อที่จะเปิดตัวบริการของเรา และหวังว่าปีหน้าจะไปร่วมงาน SXSW 2013 อีกที่สหรัฐอเมริกา และถ้ามีโอกาสแน่นอนผมอยากมาเมืองไทยครับ ^_^


~*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~?*~

เราเรียนรู้อะไรจากการสัมภาษณ์และบริการนี้
ผลิตภัณฑ์

Business Model