Site icon Thumbsup

Exclusive : บทสัมภาษณ์พิเศษ Startup แดนลอดช่อง Hungry Go Where หิวแล้ว ไปไหนดี?

เมื่อเร็วๆ นี้ทางทีมงาน thumbsup ได้ไปร่วมงาน AIS The Startup และได้มีโอกาสพูดคุยกับ Dannis Goh ผู้ก่อตั้ง Hungry Go Where แบบใกล้ชิดและ exclusive วันนี้เราจะนำเนื้อหาและไอเดียบางส่วนมาเล่าสู่กันฟัง

thumbsup: ช่วยแนะนำหน่อยว่า Hungry Go Where คืออะไร
Dannis Goh: Hungry Go Where เป็นเว็บไซต์แนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารในสิงคโปร์ ชื่อของเราใช้ชื่อเรียบง่าย ?หิวแล้ว ไปไหนดี? เพื่อสื่อความหมายอย่างตรงไปตรงมาและเรียบง่ายให้กับผู้ที่ต้องการหาคำแนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา และเข้าใจง่าย เว็บไซต์ของเราก่อตั้งเมื่อปี 2007 ก็ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีผู้เข้าชมต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคน และยอด page views อยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านต่อเดือน คิดเป็นปริมาณ 25-35% ของยอดทราฟฟิกอินเตอร์เน็ตในสิงคโปร์เลยทีเดียว และเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งถูก ซื้อกิจการโดย Singtel ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2012 ที่ผ่านมา

thumbsup: อยากให้ช่วยเล่าเกี่ยวกับช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งเว็บไซต์? Hungry Go Where? หน่อย
Dannis Goh:
เว็บไซต์? Hungry Go Where? มีผู้ร่วมก่อตั้ง 3 คน ทุกคนเป็นเพียงนักศึกษา ไม่มีใครเป็นโปรแกรมเมอร์เลย ดังนั้นช่วงแรกเราจึงต้องหาโปรแกรมเมอร์มาทำงานให้เรา แต่ก็หาไม่ง่ายเพราะโปรแกรมเมอร์ส่วนใหญ่ก็อยากทำงานร่วมกับบริษัทใหญ่ๆที่มีชื่อเสียง แต่ในที่สุดเราก็หาโปรแกรมเมอร์มาร่วมงานกับเราได้หนึ่งคน อยากจะบอกว่าหัวหน้าที่แท้จริงของบริษัทไม่ใช่ผู้ร่วมก่อตั้ง แต่เป็นโปรแกรมเมอร์นั่นเอง เพราะเราต้องพึ่งพาเขาค่อนข้างมาก ดังนั้นเราต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี ช่วงแรกๆ ยอมรับว่ายากลำบากพอสมควร เนื่องจากต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองค่อนข้างมาก เรียกว่า หินเลยทีเดียว เช่น ยอดปริมาณทราฟฟิกเพิ่งจะแตะหลักแสน เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งปี ไม่มีรายได้จากการโฆษณาเลยในช่วง 9 เดือนแรก และผู้ร่วมก่อตั้งไม่มีเงินเดือนเลยเป็นเวลา 2-3 ปี

thumbsup: อะไรบ้างที่เป็นจุดท้าทายที่สำคัญในช่วงแรกๆ ที่ก่อตั้ง
Dannis Goh: มีหลายประเด็นเลย เช่น ผู้ลงโฆษณา อย่างร้านอาหาร ธนาคาร โรงแรมส่วนใหญ่ไม่เข้าใจการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตแบบนี้ ซึ่งสมัยนั้นยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ นอกจากนี้ทางเจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่มีอีเมลใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่เป็น ไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโซเชียลมีเดีย และการไปคุย ไปอธิบายเพื่อให้เขาเหล่านั้นเข้าใจต้องไปคุยตอนร้านอาหารปิด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงสี่ทุ่มถึงตีสอง หรือแม้แต่บางร้านอยากเห็นว่าเว็บไซต์ของเราประสบความสำเร็จก่อนจึงจะยอมมาร่วมลงโฆษณากับเราด้วย

thumbsup: คิดว่าอะไรบ้างที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เว็บไซต์ประสบความสำเร็จ
Dannis Goh: ประเด็นหลักๆ ที่สำคัญก็ เช่น ต้องแสดงให้ทางร้านอาหารที่มาลงโฆษณากับเราเห็นว่าการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตมันเป็นไปได้จริงๆ ซึ่งทางเจ้าของร้านเขาจะไม่สนใจเลยเกี่ยวกับยอดทราฟฟิกอินเตอร์เน็ตของคนที่เข้ามาคลิก แต่จะมุ่งเน้นให้ความสนใจกับยอดลูกค้าที่เดินเข้าร้านจริงๆ มากกว่า ซึ่งวิธีการที่จะดึงดูดคนเข้าร้านได้จริงๆนั้นมันมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น แจกคูปองส่วนลดผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งพอเริ่มมีลูกค้าเข้าร้านแล้ว เจ้าของร้านเห็นว่าดีจริง เขาก็จะมีการบอกต่อไปยังเจ้าของร้านที่ทำร้านอาหารเหมือนกันด้วยกันเอง ซึ่งเขาเห็นว่ามันได้ผลกว่าการไปลงโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือทางโทรทัศน์ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่า นอกจากนี้รูปแบบการนำเสนอของเว็บไซต์เราจะต้องชัดเจน เน้นเรื่องอาหารอย่างเดียว เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่สนใจแต่เรื่องอาหารเรื่องกินเท่านั้น ไม่เน้นเรื่องอื่น และใช้พลังของเว็บไซต์ค้นหาอย่าง Google? ให้เป็นประโยชน์

thumbsup: คิดว่าอะไรที่เป็นจุดแข็งของเว็บไซต์ Hungry Go Where? ที่มีเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ รวมถึงคู่แข่งรายใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดนี้
Dannis Goh: จุดแข็งก็คือ เรื่องสายสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า ทั้งลูกค้าที่เข้ามายังเว็บเราเพื่อค้นหาร้านอาหาร และลูกค้าที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่มาลงโฆษณากับเรา ซึ่งข้อมูลร้านอาหารไม่ใช่จุดแข็งสำหรับธุรกิจนี้ ใครๆ ก็ทำได้ แต่เรื่องสายสัมพันธ์มันต้องใช้เวลาที่จะสร้าง เราเชื่อว่าถ้า Singtel ไม่ซื้อ แต่ Yelp อาจซื้อเว็บเราก็ได้

thumbsup: ยากทราบว่าช่วงที่ผ่านเวลายากลำบากมา อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณยืนหยัดและทำต่อจนประสบความสำเร็จ
Dannis Goh: ต้องชัดเจนในความคิดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และมีความเป็นผู้ประกอบการ เนื่องจากอย่างที่บอกไป ถ้าคุณไม่มีเงินเดือนเป็นระยะเวลา 2-3 ปี แต่ถ้าความคิดคุณยังไม่ชัดเจนว่าจะทำไปทำไม มันก็ยากที่จะยืนหยัดต่อจนประสบความสำเร็จ

~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~

สิ่งที่สัมผัสได้จากการสัมภาษณ์ครั้งนี้คือความตั้งใจ และมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้ง Hungry Go Where การเป็น Startup นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งในช่วง 2-3 ปีแรกของการทำธุรกิจเป็นช่วงที่หนักหนามาก และมีจุดวัดใจหลายครั้งว่าจะเดินต่อหรือล้มเลิกไป จริงอย่างที่ Dannis Goh กล่าวคือ “ต้องชัดเจนในความคิดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่” และเรากำลังอยู่ ณ.จุดไหนแล้ว จะเป็นเครื่องมือคอยเตือนสติบนเส้นทางสาย Startup สายนี้ และหาจุดแข็งของเราให้เจอ สำหรับ Dannis Goh เขามองว่า ใครเป็นเจ้าของสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในพื้นที่จะครองตลาดนี้ได้อย่างแท้จริง เพราะเทคโนโลยีนั้นลอกเลียนแบบได้ง่าย แต่สายสัมพันธ์นั้นไม่ใช่อยู่ดีๆ จะสร้างขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันสั้น?เราทำธุรกิจที่ต้องเกี่ยวข้องกับคน ดังนั้นการเข้าใจคนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

สุดท้ายต้องขอขอบคุณโครงการดีๆ แบบนี้จาก AIS the Startup แล้วพบกันใหม่กับบทความสัมภาษณ์ Startup ดีๆ ที่ทีมงานจะนำมาแนะนำอย่างสม่ำเสมอ?