Site icon Thumbsup

อ่านแผนแม่บทของ “ทีเส็บ” ที่จะช่วยสร้างโอกาสในการฟื้นตัวของธุรกิจเอสเอ็มอีของไทย

“เมื่อไทยเปิดประเทศอย่างเป็นทางการช่วง พฤษภาคมหรือมิถุนายน 2021 นั่นย่อมหมายถึงโอกาสอันมหาศาลของไทย”

คุณนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวถึงแผนแม่บทอุตสาหกรรม “ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์” หนึ่งในแคมเปญสำคัญของการกระตุ้นและสนับสนุนการจัดงานไมซ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

แนวทางการดำเนินงานของแผนแม่บทอุตสาหกรรม ไทยแลนด์ ล็อก-อิน อีเวนท์ นั้น ตอบโจทย์แนวทางโครงการแผนพัฒนาประเทศระดับมหภาคของรัฐบาล เพราะกระตุ้นให้ทั้งภาครัฐและเอกชนสร้างงานใหม่ ขยายงานเดิม กระจายงานสู่ภูมิภาค และประมูลสิทธิ์การจัดงานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยหรือในพื้นที่พันธมิตรหลักอย่าง อีอีซี และพัทยา

และมีแผนในการขยายพื้นที่เพิ่มเติมในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการด้านงานแสดงสินค้านานาชาติ แผนแม่บทฯ นี้จะช่วยประสานประโยชน์และส่งเสริมสนับสนุนด้านการจัดงานในด้านต่าง ๆ

เช่น สนับสนุนด้านการเงินในการจัดงานแบบวิถีใหม่ (new normal) สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาศักยภาพการรองรับการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในพื้นที่ อีอีซี การทำกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์งาน รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติ

ซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมแผนแม่บทฯ ถึง 5 งาน (ทั้งการขยายโพรไฟล์งาน และ นำงานไปจัดในพื้นที่ อีอีซี) ภายใต้ 3 อุตสาหกรรมภายใต้แผนแม่บทฯ นี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมด้านการเดินเรือ และอุตสาหกรรมด้านเมืองอัจฉริยะ

คาดว่าจะมีงานแสดงสินค้านานาชาติภายใต้แผนแม่บทฯ ทั้งงานที่มีการขยายโพรไฟล์ในอุตสาหกรรม ภายใต้แผนแม่บทฯ และงานจัดในพื้นที่อีอีซี รวมถึง 15 งานด้วยกัน ภายในปี 2568

เป้าหมายหลักของแผนแม่บท

  1. ส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติที่ช่วยผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมอวกาศและการบิน ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคม 4 ด้าน (ทางอากาศ, ทางเรือ, ทางรถไฟ, ทางรถยนต์) และรวมไปถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศและในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการจัดการภัยพิบัติ
  2. ผลักดันให้เกิดงานแสดงสินค้านานาชาติกลุ่มดังกล่าวในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC เพื่อเร่งพัฒนาการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ผ่านการสนับสนุนของ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการสนับสนุนทางด้านการเงิน การอำนวยความสะดวก การเข้าถึงหน่วยงานภาครัฐ และการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของภาคเอกชน สร้างความมั่นใจแก่ธุรกิจและนักลงทุนทั่วโลก ให้เลือกเดินทางมาประกอบธุรกิจผ่านแพล็ตฟอร์มงานแสดงสินค้านานาชาติภายใต้แผนแม่บทฯนี้ ก่อนจะนำไปสู่การค้าการลงทุนในพื้นที่ EEC ต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แผนแม่บทนี้จะเป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนและส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติในกลุ่มล็อก-อิน (Logistic & Infrastructure)  และอุตสาหกรรมก้าวหน้า กระตุ้นให้ทั้งภาครัฐและเอกชนสร้างงานใหม่ ขยายงานเดิม กระจายงานสู่ภูมิภาค รวมถึงการประมูลสิทธิ์งานระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ทั้งนี้ จะมี 2 ตัวช่วยหลัก ได้แก่

“สำหรับแผนแม่บทนี้ จะเป็นโครงสร้างสำคัญที่จะสร้างการก้าวกระโดดทางเศรษฐกิจในระยะเวลา 3 ปี โดยจะเริ่มต้นในปีนี้เป็นปีแรก จะเริ่มต้นจากอุตสาหกรรม MICE รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกและอินฟราสทรัคเจอร์ รวมทั้งนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยี

เพื่อดึงให้นักลงทุนอยากเข้ามาลงทุนผ่านงานแสดงและกิจกรรมต่างๆ ขณะนี้มีกว่า 15 งานที่กำลังเตรียมพร้อมเข้ามา และมีการร่วมมือกับทางภาครัฐและเอกชนในการเข้ามาร่วมส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักธุรกิจอาเซียนที่ต้องการเข้ามาประกอบอาชีพในไทยและต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทยต่อ โดยเชื่อว่าหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายหรือเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ภาพรวมเม็ดเงินในกลุ่มนี้จะฟื้นกลับมาอย่างน้อย 2,500-3,000 ล้านบาท

ตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับ MICE

อุตสาหกรรมไมซ์ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอีกมาก นักเดินทางไมซ์จะมีการใช้จ่ายต่อคน ต่อทริป อยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท ซึ่งจะสูงกว่านักเดินทางทั่วไป

ในปี 2563 ประมาณการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ Economic Impact (ตุลาคม 2562 – กันยายน 2563)

(การระบาดของโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทย ทำให้ภาพรวมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไมซ์ทุกประเภทในปีงบประมาณ 2563 ลดลงกว่าร้อยละ 60 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา)

ภาพรวมอุตสาหกรรม Exhibition

กิจกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ หรือ Exhibitions ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 

ในปี 2562 งานแสดงสินค้า หรือ Exhibitions ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ Economic Impact เกิดค่าใช้จ่าย 307,620 ล้านบาท คิดเป็น 54.95% ของอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งหมด 

จำนวนงานแสดงสินค้านานาชาติ (B2B) ที่ สสปน. สนับสนุนในปี 2562 

จำนวนงานแสดงสินค้านานาชาติ ที่ สสปน. สนับสนุนในปี 2563 

ในปี 2564 มีแผนการจัดงานแสดงสินค้านานาชาตี่ สสปน. สนับสนุน ประมาณการจำนวนรวม 58 งาน แบ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่จัดอยู่เดิมและมีแผนที่จะจัดในปี 2564 จำนวน 44 งาน และ งานแสดงสินค้านานาชาติใหม่ New Show in the Pipeline จำนวน 14 งาน 

เป้าหมายการดำเนินงาน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564