Site icon Thumbsup

ผลสำรวจพบผู้ใหญ่หันมาใช้งาน Facebook มากขึ้น แต่วัยรุ่นทยอยถอนตัว

teen2

เว็บไซต์ Rigtmixmarketing.com เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั้งในสหรัฐฯและแคนาดาดา พบว่า แนวโน้มของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ระหว่าง 10/2012 – 4/2013) เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน หนึ่งในนั้นคือ Facebook ที่อายุเฉลี่ยผู้ใช้งานส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น ผลจากกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้งาน Facebook ลดลง สวนทางกับกลุ่มผู้ใหญ่ที่สมัครใช้งานมากขึ้น

Rigtmixmarketing.com ชี้ว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นผู้ใช้ Facebook มีจำนวนลดลง คือความเบื่อหน่ายที่ต้องเจอกับปัญหาในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นเรื่องโฆษณา สแปม และเกมส์จำนวนมากที่ถูกส่งผ่านโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงปัญหาความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน โดยในประเทศสหรัฐฯ กลุ่มผู้ใช้งาน Facebook ที่เป็นวัยรุ่นลดลงสูงถึง 7.37% ในขณะที่แคนาดาก็มีจำนวนลดลง 5.31%

ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานในกลุ่มวัยรุ่นจะมีจำนวนลดลง แต่การใช้งาน Facebook กลับได้รับความนิยมและถูกแทนที่ด้วยกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปพบว่า เป็นกลุ่มที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิม 61% เป็น 65% ในปี 2012 รวมไปถึงอายุเฉลี่ยของผู้ใช้งานยังเพิ่มสูงขึ้นจาก 38 ปีเป็น 41 ปีด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกลุ่มผู้ใช้งานโชเชียลมีเดียที่น่าจับตามองมากเป็นพิเศษ คือกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นคุณแม่ โดยผู้ใช้งานกลุ่มนี้เริ่มหันมาใช้ Facebook เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 22% ภายในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา

ในขณะที่โซเชียลมีเดียได้รับความนิยมลดลงในกลุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกันและแคนาดา การสำรวจพบว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้เริ่มหันไปให้ความสนใจกับแอพพลิเคชันสนทนา (แชต) บนสมาร์ทโฟน แทนที่จะสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย โดยในปี 2011 ที่ผ่านมาพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นที่หันมาใช้แอพพลิเคชันแชตบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นถึง 61%

หนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นคือ WhatsApp ล่าสุดมีจำนวนผู้ใช้งานรวมกันมากกว่า 300 ล้านคนและมีการส่งข้อความที่ถูกส่งถึงกันต่อวันกว่า 10 พันล้านข้อความ รวมไปถึง Snapchat ที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนและ Kik Messenger ที่มีจำนวนผู้ใช้งานอีกกว่า 30 ล้านคน

โซเชียลมีเดียที่ยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชัน 5 อันดับแรก คือ Tumblr (61%) รองลงมาเป็น Facebook (55%) Twitter (22%) Instagram (21%) และอันดับสุดท้าย Snapchat (13%)

ที่มา : Visual.ly