Site icon Thumbsup

 ‘Thoth Zocial’ ผนึกกำลัง ‘OBVOC’ ครองตลาดข้อมูลโซเซียล

ทีมจาก Thoth Zocial และ OBVOC

เป็นอีกหนึ่งการรวมกิจการที่น่าจับตาทีเดียวสำหรับ Thoth Zocial และ OBVOC (โอบีว็อค) หรือวันบิต แมทเทอร์ จำกัด ที่ประกาศความร่วมมือในธุรกิจด้านการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ การจัดการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์เชิงลึก เพื่อครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด  แถมยังมีบริษัท N-vest Venture เข้ามาร่วมในฐานะผู้จัดการกองทุนตัวแทนของธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมลงทุนในดีลครั้งนี้ด้วย เป็นมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 35 ล้านบาท

คุณกล้า ตั้งสุวรรณ
โดยคุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โธธ โซเซียล จำกัด เผยว่า ที่ผ่านมา ทั้ง Thoth Zocial และ OBVOC ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการข้อมูลบนโลกโซเซียล ต่างเล็งเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในปี 2017 นี้ เนื่องจากตลาดโซเชียลเป็นตลาดที่กำลังเติบโต และข้อมูลบนโลกโซเชียลนี้มีศักยภาพที่จะใช้ในการวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ และการบริหารจัดการ
“เรามีความเชื่อเรื่องโซเชียลมีเดียว่าทำให้เราเข้าใจคนทั้งโลกได้ ซึ่งหากเป็นในอดีตที่ผ่านมาเราต้องทำรีเสิร์ช แต่พอมีโซเชียลมีเดียที่ทุกคนต่างเอาข้อมูลของตัวเองไปโยนไว้ในที่ ๆ หนึ่ง แล้วมันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อถึงกันได้ ถ้าเราไปดึงข้อมูลนี้มา แล้ววิเคราะห์เราก็จะทราบพฤติกรรมผู้บริโภคได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่า รวมถึงหากเกิดปัญหา ก็จะสามารถจัดการกับปัญหานั้นได้ทันท่วงทีกว่า” 
ในจุดนี้คุณกล้ามองว่า การประสบความสำเร็จของธุรกิจภายใต้ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน ควรจะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลโซเซียลที่เราเรียกว่า Social Driven Business  ซึ่งการจับมือกับ OBVOC นั้นจะทำให้ทั้งสองบริษัทแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดแข็งที่จะเข้ามาเสริมทัพของกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น Thoth Zocial มีจุดเด่นในด้านการพัฒนา Tools ต่าง ๆ และพนักงานของ Thoth Zocial ส่วนใหญ่มาจากสาย Engineering โดยตรง ขณะที่ OBVOC นั้นเด่นในเรื่องคนและการให้คำปรึกษา โดยพนักงานกว่าครึ่งมาจากสายเศรษฐศาสตร์ สถิติ เมื่อนำสองจุดเด่นนี้มารวมกัน จะทำให้ OBVOC ที่มี Tools ของ Thoth Zocial แกร่งในตลาดการให้คำปรึกษาต่อภาคธุรกิจมากขึ้น ส่วน Thoth Zocial ที่มีทีมวิเคราะห์จาก OBVOC มาช่วยก็จะแกร่งในด้านการให้คำปรึกษามากขึ้นนั่นเอง
ทำไมจึงต้องการความแกร่งขนาดนั้น อาจต้องพิจารณาจากวัตถุประสงค์ข้อที่สองของการวมกิจการในครั้งนี้ก็คือ การออกไปสู้ยังต่างประเทศ โดยคุณกล้าให้เหตุผลว่า เพราะเมืองไทยไม่ใช่ Battlefield ของการรบบนโลกโซเชียลอีกแล้ว ที่สำคัญ ถ้าเราไม่ออกไป จะมีคนอื่นเข้ามาบุกเราแน่
“ตอนนี้ธุรกิจข้ามชาติยังลงมาเล่นในตลาด APAC มากไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องภาษา เช่น การพูดจาประชดประชัน ซึ่งระบบของคอมพิวเตอร์ต่างชาติยังไม่เข้าใจ ทำให้ Tools ของเราได้เปรียบในจุดนี้”
คุณพเนิน อัศววิภาส
ด้านคุณพเนิน อัศววิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันบิต แมทเทอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเรา จะเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยทาง OBVOC มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการตามโจทย์หรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้า เช่น การวัดผลแบรนด์ของลูกค้าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การรับฟังความเห็นของผู้บริโภคหลังจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการวัดผลการออกแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งบริการของเราจะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึงการตัดสินใจบนฐานของข้อมูล (Data-Driven Decision) อย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”
ยกตัวอย่างความต้องการของแต่ละฝ่ายเช่น 
– ซีอีโอและผู้บริหารต้องการข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อประเมินสถานการณ์ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ภาพรวมของธุรกิจ
– ฝ่ายการตลาดต้องการติดตาม และประเมินผลประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดว่าคุ้มกับงบประมาณที่จ่ายลงไปหรือไม่ เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดให้ทันต่อสถานการณ์การแข่งขัน
– ฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารองค์กรฯ ที่ต้องเฝ้าระวังภาพลักษณ์เชิงลบ จะสามารถวางแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที
– ฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่ต้องทราบฟีดแบ็กของกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องตามความต้องการของลูกค้า

ซึ่งเหล่านี้คุณพเนินมองว่า หากข้อมูลได้มารวดเร็วเท่าใดก็จะสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างมีศักยภาพ และรวดเร็วต่อสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจในปัจจุบันมากเท่านั้น

คุณศรันย์ สุตันติวรคุณ

อีกหนึ่งบุคคลสำคัญของดีลครั้งนี้คือ คุณศรัณย์ สุตันติวรคุณ หุ้นส่วนบริหาร บริษัท เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด ในฐานะนักลงทุน ที่มองว่า ดีลนี้ไม่ใช่การลงทุนธรรมดา และ N-Vest Venture สนใจการลงทุนนี้เพราะว่าตลาดโซเชียลมีการแข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายในการเติบโตคือ 3 – 5  เท่า อีกทั้งยังเป็นการรวมกิจการที่พบได้ไม่บ่อย นั่นคือ Merge กิจการแล้วยังมีการ Funding ลงไปด้วย

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องเตรียมความพร้อม และปรับตัวให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และการร่วมมือระหว่าง Thoth Zocial และ OBVOC อาจกลายเป็นคำตอบสำหรับธุรกิจยุคใหม่ที่เล็งเห็นความสำคัญของข้อมูลจากโลกโซเซียลก็เป็นได้