Site icon Thumbsup

Vine ส่งสัญญาณปฏิวัติวงการ video marketing

vine_tv_is_here

Vine บริการแชร์วิดีโอความยาว 6 วินาทีของ Twitter ลงมือปรับเพิ่มความสามารถใหม่จนสื่ออเมริกันยกให้ Vine เวอร์ชันใหม่นี้มีความคล้ายคลึงกับบริการ YouTube ที่อุดมไปด้วยคลิปวิดีโอสั้น 6 วินาทีเท่านั้น แถมยังเพิ่มการทำงานในโหมดโทรทัศน์หรือ TV Mode คาดว่าการปรับปรุงครั้งนี้จะมีผลให้วงการสื่อโฆษณาวิดีโอออนไลน์หรือ video marketing มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน

Vine นั้นเป็นบริการที่ถูกเจ้าพ่อบล็อกสั้นซื้อกิจการไปและเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2013 เวลาผ่านไป 1 ปี Vine สามารถแจ้งเกิดในฐานะแอปพลิเคชันสำหรับแชร์วิดีโอสู่โลกออนไลน์ที่ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอจากสมาร์ทโฟนของตัวเองได้ง่ายดาย โดยวิดีโอจะจำกัดความยาวสูงสุดที่ 6 วินาที ภายในจะมีฟีเจอร์ตกแต่งวิดีโอครบถ้วน วิดีโอที่ถ่ายจาก Vine สามารถแชร์ลงสู่ Twitter ได้ทั้งกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์ของ Apple และ Android

ไม่เพียงแอปพลิเคชัน Vine เปิดเว็บไซต์ vine.co ให้บริการผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสามารถชมวิดีโอสั้นของตัวเอง และไล่เปิดดูโปรไฟล์ของผู้ใช้รายอื่นได้ด้วย แต่ล่าสุด Vine ปรับเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้ vine.co สามารถค้นหาวิดีโอที่ต้องการได้ด้วยคำที่เกี่ยวข้อง (ภาพด้านล่างคือตัวอย่างการเสิร์ชหาวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับ Machu Picchu อันโด่งดัง) รวมถึงวิดีโอใหม่น่าสนใจที่ทีมงานคัดเลือกมาให้ผู้ใช้ได้ชมในตำแหน่งที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการจัดช่องหรือ channel ของบุคคลหรือองค์กรอิสระใดก็ได้สามารถอัปโหลดวิดีโอสั้นให้ผู้ชมได้ติดตาม

ความสามารถหลายส่วนที่ถอดแบบ YouTube นี้เองที่ทำให้ Vine ถูกมองว่าอาจจะปฏิวัติและทำให้วงการ video marketing เกิดการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากที่ผ่านมา โฆษณาบน YouTube จะเปิดโอกาสให้ผู้ชมปิดโฆษณาได้หลังจากชมโฆษณา 5 วินาทีไปแล้ว แน่นอนว่า 5 วินาทีนี้เกือบเท่ากับความยาวทั้งวิดีโอของ Vine จุดนี้เองที่ทำให้เชื่อกันว่า นักการตลาดจะพยายามประยุติใช้พลังของ Vine ในการเพิ่มความขลังให้โฆษณาออนไลน์ปัจจุบันมีความน่าเบื่อน้อยกว่านี้

ในมุมการสร้างช่องหรือ channel นักวิเคราะห์มองว่า Vine ต้องการเปิดกว้างเพื่อต้อนรับแบรนด์หรือองค์กรที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลผ่านวิดีโอสั้นอย่างเสรี ซึ่งไม่เพียง channel บริการน้องใหม่อย่าง Vine ยังเดินตาม YouTube ด้วยการเปิดตัว TV Mode เพื่อให้ผู้ใช้ดึงไฟล์ไปแสดงบนทีวีหน้าจอยยักษ์ได้เต็มตา จุดนี้ถือว่า Vine ต้องการบอกโลกว่ากำลังพัฒนาให้ระบบของ Vine สามารถรับส่งแพคเกจข้อมูลวิดีโอความเร็วสูงได้เหมือนที่ YouTube กำลังให้ความสำคัญในขณะนี้

ขณะเดียวกัน การเปิดให้ผู้ชมที่ไม่ใช่สมาชิก Vine สามารถเข้าถึงคอนเทนต์น่าสนใจของ Vine ได้เพิ่มขึ้น นั้นสะท้อนว่า Vine ต้องการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานให้ครอบคลุมมากกว่าผู้ดาวน์โหลด Vine ไปใช้งานบนแอปพลิเคชันจำนวนหลายสิบล้านคนในนาทีนี้

ที่มา: TGDaily