Site icon Thumbsup

ซุปเปอร์มาร์เก็ตยุคใหม่ ซื้อขายของผ่านหน้าจอทีวีและกล้อง Microsoft Kinect

ทุกวันนี้การซื้อของบนออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าความสะดวกสบาย และสามารถหาข้อมูลและความเห็นจากอินเทอร์เน็ตได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ข่าวนี้เป็นอีกเทคโนโลยีใหม่ในการซื้อของผ่านหน้าจอโทรทัศน์ (ที่ไม่ใช่ TV Direct) แต่เป็นการสร้างร้านขายของชำจำลองแบบสามมิติให้เราไปชอปปิงกันอย่างสบาย

Keytree บริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์จากประเทศอังกฤษได้สร้างแอพพลิเคชันที่ยกร้านขายของชำมาไว้ในบ้านหรือหน้าจอทีวีของคุณ โดยผ่านอุปกรณ์ Microsoft Kinect ที่ปกติเราจะใช้เล่นเกมคู่กันกับเครื่อง XBOX360 โดยแอพพลิเคชันนี้ชื่อว่า Store Trek (ชื่อละม้ายคล้ายกับภาพยนตร์ Star Trek เลยทีเดียว)

ภาพจาก blogcdn.com

โดย Kinect จะทำหน้าที่จับตำแหน่งที่เราอยู่และการมอง เพื่อไปสร้างและแสดงภาพชั้นวางของในร้านขายของชำในรูปแบบสามมิติ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ในการซื้อสินค้าถึงที่ร้านและการซื้อของแบบออนไลน์ เพราะภาพจะทำให้ดูเสมือนว่าเรากำลังเดินในร้านซื้อของอยู่จริงๆ และเมื่อเราเดิน ในหน้าจอก็จะเปลี่ยนตำแหน่งของชั้นวางของเหมือนเราซื่อของจริงๆ เมื่อเราต้องการของ เราก็เพียงชี้ไปที่สินค้าที่ต้องการแล้วหยิบใส่ลงตะกร้า จากนั้นทำการจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ตามกำหนด

เบื้องหลังการทำงานของ Store Trek คือการใช้บริการของ Cloud โดย SAP และ ?และการใช้ระบบฐานข้อมูลของสินค้าและลูกค้า?โดยข้อมูลสินค้านั้นจะมาจาก 3 ยักษ์ใหญ่ของการค้าปลีกอย่าง Tesco, amazon, ebay เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็จะทำการมาสร้างเป็นวัตถุ 3 มิติ เพื่อนำไปวางในโลกร้านค้าเสมือนให้เราซื้่อนั่นเอง โดยเรียกบริการเหล่านี้ว่าเป็น Cloud-based ecommerce

หลังจากที่ได้รับคำสั่งการซื้อและชำระเงินแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของทางผู้ขายสินค้าในการจัดส่งสินค้ามาให้เราต่อไป เราก็นอนตีพุงรอสินค้ามาส่งถึงหน้าบ้าน

ลองดูวิดิโอแนะนำ Store Trek ได้เลยครับ

เราได้อะไรจากข่าวนี้

ถือเป็นสิ่งที่พัฒนาออกมาที่ทำได้น่าสนใจ ในยุคที่เราอยู่กับการออนไลน์อยู่ตลอดเวลารวมทั้งเป็นยุคที่เราดูโทรทัศน์ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในตัว ซึ่งมันสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าถามว่าต่างอะไรกับการซื้อของออนไลน์ไหม ก็คงจะไม่ต่างนักเพราะสิ่งที่จะได้คือประสบการณ์ที่ Store Trek ทำให้เหมือนว่าเราอยู่ในร้านค้ามากกว่าที่เราจะพิมพ์ๆ คลิกๆ บนหน้าจอไป

ดังนั้นแล้ว ผมถือว่าเป็นการขายความน่าสนใจมากกว่า อาจต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีแนวในการพัฒนาต่อยอดไปอย่างไรได้อีก กับผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่เริ่มขี้เกียจออกจากบ้านและอยู่บนโลกออนไลน์ตลอดเวลาอย่างปัจจุบัน

…ปิดคอม ปิดโลกออนไลน์ อยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่คุณรักกันด้วยนะครับ

ที่มา: PSFK