Visual Social Media เป็นศัพท์เรียกเครื่องมือการตลาดที่นักโฆษณาหลายคนอาจใช้งานจนคุ้นเคยโดยไม่รู้ตัว สถิติมากมายชี้ว่าสิ่งที่นักการตลาดปี 2013 ต้องทำคือ visual Social Media ไม่ควรจะเป็น Social Media ธรรมดาๆ อีกต่อไป
การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน โซเชียลมีเดียนับว่าช่องทางสำคัญในการทำตลาดที่ทุกคนล้วนให้ความสนใจ ซึ่งรูปแบบของโซเชียลมีเดียก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพหรือวีดีโอ แต่ดูเหมือนว่ารูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่จับตามองอยู่ในกลุ่มนักธุรกิจและนักการตลาดอยู่ในเวลานี้คือ “Visual Social Media”
Visual Social Media เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของโซเชียลมีเดียที่เน้นการสื่อสารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยใช้ รูปภาพ และวีดีโอ หรือ Visual content อย่างอินโฟกราฟฟิก เป็นช่องทางหลักในการนำเสนอข้อมูล แตกต่างจากโซเชียลมีเดียธรรมดาที่เน้นการส่งข้อความ
ตัวอย่างของ Visual Social Media ที่เราต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คือภาพ วิดีโอ และอินโฟกราฟฟิกที่ถูกส่งต่อบน Facebook หรือเครือข่ายสังคมอย่าง Twitter, Instagram, Youtube, Tumblr และ Pinterest
เว็บไซต์ Bootcampdigital.com ระบุว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้การนำเสนอในรูปแบบของ Visual Social Media เป็นที่นิยมในเวลานี้ คือจุดเด่นเรื่องความสามารถสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มผู้รับได้อย่างไม่จำกัดผ่านรูปภาพหรือวีดีโอ ซึ่งแตกต่างจากโซเชียลมีเดียธรรมดาที่เน้นสื่อสารผ่านตัวอักษร รวมถึงข้อความใน Blogs
สถิติที่ช่วยยืนยันกระแสความนิยมของ Visual Social Media ได้ดี คือการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานบริการปักหมุดเว็บไซต์ด้วยภาพของ Pinterest ในปัจจุบันที่มีจำนวนเพิ่มสูงถึง 4,000% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงผลตอบรับจากผู้ใช้งานแอพพลิเคชันตกแต่งและแบ่งปันภาพ Instagram ที่มีการกด Like สูงถึง 575 ครั้งและอีกกว่า 81 คอมเมนท์ภายในระยะเวลาเพียง 1 วินาที เช่นเดียวกับรูปภาพที่ถูกโพสต์บน Facebook ที่ได้รับการกด Like สูงกว่าการโพสต์ด้วยข้อความธรรมดาถึง 53%
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมความนิยมของการใช้ Visual Social Media คือผลการศึกษาที่ระบุว่า สมองสามารถประมวลผลที่เป็นรูปภาพได้ดีกว่าการใช้ข้อความถึง 60,000 เท่า และกว่า 40% ของคนทั่วไปยังสามารถตอบสนองกับการสื่อสารโดยใช้รูปภาพได้ดีกว่ารูปแบบข้อความ
นอกจากนี้เว็บไซต์ Bootcampdigital.com ยังได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งาน Visual Social Media ให้มีประสิทธิภาพ คือ ในเพจแต่ละหน้าควรใช้รูปภาพอย่างน้อย 1 ภาพเพื่อช่วยในการสื่อสารให้ตรงประเด็น, หมั่นสังเกตและศึกษาถึงรูปแบบการของเนื้อหาของคู่แข่งที่ได้รับความนิยม, มีการใส่ชื่อภาพหรือหัวข้อ รวมไปถึงการติดป้ายคำหรือแท็กภาพให้ถูกต้องและสมบูรณ์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการค้นหา และการเลือกใช้รูปภาพที่มีความโดดเด่นน่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้มีการแชร์หรือส่งต่อ
ที่มา: Visual.ly