Site icon Thumbsup

What3Words ขอสามคำ คอนเซปต์ง่ายๆ กลายเป็นธุรกิจจริง

what3words3

ใครที่ไม่คุ้นเคยกับประโยค “ขอสามคำ” อาจจะต้องบอกว่าเชยไปนิด เพราะมันถูกเอามาใช้ในรายการบนอินเทอร์เน็ตอย่าง VRZO จนทำให้ติดปากคนกันไปทั่ว แต่ในเมืองนอกเขาก็ได้ใช้หลักการนี้มาทำให้เป็นธุรกิจสำหรับธุรกิจแล้วกับบริการที่ชื่อ What3Words

จุดเริ่มต้นของ what3word เกิดขึ้นจาก Startup ชาวสหราชอาณาจักรคิดอยากจะแปลงโฉมรูปแบบพื้นที่ทั้งหมดในโลกใบนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ 3×3 ช่อง จำนวนทั้งหมด 57,000 ล้านส่วน ลงบน Google Maps ซึ่งเมื่อเราค้นหาตำแหน่งแล้วเราก็จะได้คำที่เราต้องการตามสถานที่นั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษ 3 คำ เช่น ถ้าจะหาด้วยคำว่า MBK หรือ มาบุญครอง สิ่งได้กลับมาคือคำว่า cover.breathy.solid หรือถ้าเปลี่ยนเป็น Siam Paragon ก็จะกลายเป็นคำว่า binders.giggled.haggis โดยคำเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจากการพูดถึงของคนที่ไปบริเวณนั้น ว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้าง หรือสภาพ, สถานการณ์นั้นเป็นอย่างไร

และแน่นอนว่าข้อจำกัดของมันก็คือการหาเฉพาะศัพท์ที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (จะให้เป็นภาษาไทย 30 คำก็คงจะไม่พอ)

นอกจากนั้นแล้วยังอำนวยความสะดวกในการที่จะช่วยส่งต่อสถานที่ที่ต้องการนั้นๆ ไปยังคนที่ต้องการผ่านทางอีเมล์ หรือจะบอกผ่านทางช่องทางโซเชียลได้ โดยจะบอกเป็นทั้งพิกัด GPS เอง หรือจะเป็น URL พร้อมคำของสถานที่นั้น เช่น http://w3w.cm/binders.giggled.haggis

การใช้งานของคนทั่วไปนั้นจะไม่มีการคิดราคาใดๆ แต่สำหรับภาคธุรกิจแล้ว หากต้องการที่จะทำให้คำของสถานที่นั้นดูโดดเด่นเตะตาคนที่หา ก็สามารถซื้อการปักหมุนพร้อมคำ 1 คำได้ในราคาต่อปีเพียง 1.5 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 45 บาทต่อปีเท่านั้น โดยหากซื้อคำไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนคำได้ แต่กรรมสิทธิ์ในการครองคำยังคงอยู่กับเรา นั่นคือเราสามารถจะเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งที่จะใช้คำนั้นได้

นับเป็น gimmick เล็กๆ ที่ผู้พัฒนาหยิบเอาประโยชน์ของการเล่นคำสามคำ มาใช้กับธุรกิจ ซึ่งดูในตอนนี้ถึงแม้ว่ามันจะใช้งานไม่ค่อยได้ในต่างประเทศยกเว้นใน US หรือ UK ก็ตาม แต่ด้วยคอนเซปต์ถือว่าเป็นการเล่นอะไรที่ใกล้ตัวและต่อยอดทางธุรกิจได้

จุดด้อยก็คือการที่มีช่องกระจายและคำที่กระจายออกไป ทำให้ยากต่อการที่จะใช้งานได้ครบทุกประเทศทั่วโลก และเมืองไทยนั้นเราสามารถเอามาเล่นคำกันได้อย่างสนุก ซึ่งก็ถือเป็นช่องทางเฉพาะให้กับธุรกิจเฉพาะกลุ่มที่ต้องการให้ตัวเองโดดเด่นขึ้นมาอีกขั้น ซึ่งดูแล้วน่าจะเอาไอเดียนี้มาต่อยอดได้ในบ้านเราครับ

What3Words สามารถใช้ได้ทั้งบนหน้าเว็บไซต์ what3words.com และมีเป็นแอพพลิเคชันทั้งบน iOS และ Android ด้วย ใครสนใจก็ลองเข้าไปใช้งานกันดูนะครับ