Site icon Thumbsup

ถึงเวลาต้องรีแบรนด์ (Rebranding) รวมสัญญาณที่ธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลง

ผู้ประกอบหลายคนอาจคิดว่าแบรนด์เป็นแค่ชื่อกับโลโก้ แต่แบรนด์คือสิ่งที่ทำให้คนจดจำธุรกิจได้ ดังนั้นแบรนด์จึงเป็นมากยิ่งกว่านั้น

แบรนด์ คือผลรวมประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ โลโก้ ผลิตภัณฑ์ การสื่อสาร รวมถึงภาพลักษณ์ที่จะเข้าไปสร้างภาพจำในใจคน

แต่เมื่อธุรกิจดำเนินมาถึงระยะหนึ่ง ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อเติบโต และทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำอยู่เสมอ การรีแบรนด์ (Rebranding) จึงกลายเป็นอีกทางออกสำหรับหลายธุรกิจ

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องรีแบรนด์แล้ว ควรพิจารณาอะไร ปัจจัยไหนบ้าง วันนี้ขอพาไปดูกรณีศึกษาแต่ละเคสกันครับ

เปลี่ยนให้ทันสมัย

กรณีนี้ขอยกตัวอย่างแบรนด์ ‘ศรีจันทร์’ เมื่อแบรนด์เก่าเกินกว่าที่จะเข้าไปนั่งอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ ก็ต้องถึงเวลาต้องเปลี่ยนทั้งภาพลักษณ์แต่ไม่เปลี่ยนเอกลักษณ์

เปลี่ยนทั้งโลโก้และพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายคือคนที่มีอายุมากกว่า 35 ปี เป็นกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน รวมถึงก้าวไปไกลถึงต่างประเทศในชื่อ ‘SRICHAND’

พร้อมกันการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างรอบด้าน นำมาสู่ความสำเร็จในการเป็นที่จดจำในลูกค้าด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

เปลี่ยนกลยุทธ์

แบรนด์ที่ไม่สามารถหากลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรูปแบบธุรกิจ เพิ่มไลน์สินค้า ขยายตลาดทางธุรกิจ

ยกตัวอย่างเช่น ‘ดอยคำ’ เดิมมีภาพลักษณ์ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่รักสุขภาพเท่านั้น จึงมีการรับรู้ในวงแคบ ต่อมาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้สดใสมากขึ้น วัยรุ่นมากขึ้น ทำให้ครองส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้ได้อย่างมาก

เปลี่ยนเพื่อแตกต่าง

ในอุตสาหกรรมหนึ่งมีหลายธุรกิจที่เข้ามาแข่งขันกัน ส่วนผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายให้เลือกซื้อเลือกใช้ แต่จะทำอย่างไรให้แบรนด์โดดเด่นขึ้นมา

ยกตัวอย่าง ‘เงินติดล้อ’ ที่ก่อนหน้านี้คือ ‘ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ’ แต่ลูกค้ายังคงสับสนกับ ‘ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ’ ซึ่งเป็นธุรกิจสินเชื่อบ้าน จากนั้นเปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘เงินติดล้อ’

ช่วยแก้ปัญหาความเข้าใจผิดของลูกค้า และสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ให้กับลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก

เปลี่ยนโครงสร้าง

มีหลายแนวทางที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต การควบรวมกิจการเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ธุรกิจสามารถขยายบริการ สร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทใหม่ และต่อยอดได้มากยิ่งกว่าเดิม

ยกตัวอย่างกรณี ‘LINE MAN Wongnai’ เป็นการควบรวมระหว่างไลน์แมนผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี เรียกรถ และส่งของ กับ วงใน แพลตฟอร์มรีวิวและค้นหาร้านอาหาร ที่มีฐานข้อมูลร้านอาหารกว่า 400,000 ทั่วประเทศไทย

ซึ่งนอกจะเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตแล้วยังสามารถต่อยอดบริการอื่นๆ ได้อีกมากมายในอนาคต

อ้างอิง Entrepreneur