Site icon Thumbsup

ทำไมต้อง Agile ลองฟังแนวคิดของเหล่าไอทีขั้นเทพจาก KBTG

กำลังเป็นกระแสร้อนแรงทีเดียวสำหรับ Agile ที่หลายองค์กรกำลังพยายามที่จะลงมือปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันยุค Digital Disruption แต่แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันนี้ ต่างก็เป็นได้แค่หนึ่งใน “วิสัยทัศน์” ของกลุ่มผู้บริหาร แต่ในกลุ่มคนทำงานหรือคนที่ได้รับมอบหมายงานให้เปลี่ยนแปลงการทำงานภายในองค์กรนั้น ไม่ได้รู้สึกสนุกเลย มาลองฟังแนวคิดของ KBTG บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของไทย เกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะ

สำหรับงานสัมมนา Beyond Agile by KBTG นั้น เกิดขึ้นได้จากความพยายามของ เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร-บิซิเนส เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือพี่กระทิงของเหล่าสตาร์ทอัพ ที่ต้องการตอกย้ำความสำคัญในการนำ Agile มาใช้ในองค์กร เพราะหากองค์กรใดสามารถทำได้ พวกเขาจะกลายเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่จะเป็นผู้ชนะอย่างยั่งยืน ในยุค Digital Disruption นี้เลยทีเดียว

นอกจากนี้ การดึงวิทยากรคนเก่งอย่าง Arie van Bennekum, Co-author of Agile Manifesto and Global Thought Leader หนึ่งในผู้คิดค้น Agile แกนคิดสำคัญในการพาองค์กรปรับตัวไปสู่ยุคใหม่ ในหัวข้อ “Agile and the Future”

Erik Dörnenburg, Head of Technology จาก ThoughtWorks บริษัทผู้ผลักดันการใช้ Agile จนแพร่หลายไปในองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก ในหัวข้อ “Future Software Development with DevOps” และ Ken Collins, Director, Information Management & Analytics จาก Microsoft ผู้นำด้านการวิเคราะห์และการจัดการข้อมูล ที่มาเติมเต็มความรู้ ในหัวข้อ “Data Science in an Agile Business” มาให้ความรู้กัน ซึ่งสิ่งที่ทางทีม Thumbsup สรุปจากการเข้าไปฟังนั้น มีดังนี้

Agile คือการทำงานแห่งอนาคต

 

“Agile ควรเป็น Big Vision ขององค์กรที่ต้องเปลี่ยนการทำงานภายในให้เกิดผลงานจริงๆ ไม่ใช่แค่ตามกระแส Fashion ที่อยากทำเพราะเห็นเทรนด์และคนอื่นๆ เค้าพูดกัน แต่ไม่มีความเข้าใจหรือลงมือทำอย่างแท้จริง”

 

 

Apollo ที่จะเปลี่ยนโลกของทีม KBTG

หลายคนอาจเห็นผ่านสื่อต่างๆ ไปบ้างแล้ว สำหรับแอพพลิเคชั่นและฟีเจอร์ใหม่จาก Apollo Project จากทีม KBTG ที่เป็นการเปิดแพลตฟอร์มให้พนักงานของ KBTG เข้ามาใช้ API และสร้าง Prototype เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์จริงๆ ภายใต้กฏเกณฑ์การกำกับดูแล ทั้งการทำ Sandbox ภายในองค์กร สร้างโปรดักส์จริงเพื่อลดเวลา Time to Market ด้วยการให้คนในองค์กรลองใช้งานจริงเพื่อทดสอบและแก้ไขปัญหาก่อนปล่อยให้คนทั่วไปได้ใช้งานกันและนี่คือ 3 แอพที่จะเปิดให้ใช้งานเร็วๆ นี้

KhunThong (ขุนทอง) เป็นระบบทวงเงินที่ใครได้เห็นรีวิวก็อยากใช้งานแล้ว เพราะไม่ต้องติดตั้งแอพใหม่ให้วุ่นวาย เพียงแค่คุณ Invite ขุนทองเข้าไปในกรุ๊ปที่คุณต้องการทวงเงิน จากนั้นใส่ชื่อเพื่อนในกลุ่มที่คุณต้องการทวงเงิน ระบบจะบริหารจัดการทวงเงิน คิดยอดเงินและแจ้งเตือนให้ทราบได้ทันที กรณีเดียวที่ขุนทองจะไม่ทราบ คือ คุณจ่ายเงินสดต่อหน้าด้วยกันเอง ดังนั้น หากจ่ายเงินสดให้กันก็ต้องบอกขุนทองด้วย ไม่อย่างนั้นเพื่อนหรือลูกหนี้คุณก็ต้องโดนทวงทุกวันแน่นอน

หรือถ้าคุณไม่อยากกรอกข้อมูลซ้ำซาก ลองโหลด Data Wallet เข้าไปในเครื่อง คุณอยากจะเก็บข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสุขภาพ หรือข้อมูลทางการเงินไว้ในเครื่องก็สามารถทำได้ และเมื่อต้องการเชื่อมต่อกับบริการเพื่อรับสิทธิประโยชน์ใด ก็สามารถ Export ข้อมูลได้เลย สะดวกสบายไม่ต้องกรอกใหม่ทุกครั้ง

หากคุณเป็นคนที่ชอบจ่ายเงินด้วย Wallet บนสมาร์ทโฟน แต่ไม่อยากกดรหัสให้วุ่นวายต้องลอง Facepay ระบบที่ติดตั้งเทคโนโลยี Face Recognition เอาไว้ ซึ่งมั่นใจว่าแม่นยำถึง 99% เลยทีเดียว เพียงแสกนใบหน้าสดที่แท้จริงคุณจะจ่ายเงินได้ทันที แต่หากมีใครหัวใสเอารูปคุณไปแสดงเพื่อจ่ายเงินแทนแล้วละก็ รับรองได้ว่าระบบจะไม่ปล่อยผ่านให้จ่ายเงินได้ เพราะต้องใช้ใบหน้าสดของจริงของเจ้าของบัญชีเท่านั้น

ส่วนองค์กรใดจะเดินหน้า Agile ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรแล้วละก็ งานนี้บอกได้เลยว่าพนักงานต้องสนุกกับการเปลี่ยนแปลงก่อนนะคะ ถึงจะเกิดผล