Site icon Thumbsup

3 สิ่งสำคัญที่ทุกบริษัทมองหาระหว่างสัมภาษณ์งาน

สัมภาษณ์งานครั้งไหนๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะครับ…

หลายคนโน้ตย่อคำถามเหมือนเก็งข้อสอบพร้อมท่องคำตอบเอาไว้เสียดิบดี (แต่ถึงเวลาก็ลืมหมด ฮา) แต่เชื่อไหมว่าบริษัทยุค 4.0 เขาไม่ได้ฟังคำตอบสวยหรูที่คุณเตรียมมาอีกแล้วครับ เพราะทุกบริษัทรู้ว่าผู้สมัครงานเดี๋ยวนี้เดาทางคำถามออกและไม่ค่อยให้น้ำหนักกับสิ่งที่คุณตอบมามากสักเท่าไหร่ แล้วเขาเรียกคุณไปสัมภาษณ์ทำไมล่ะ?

ต่อไปนี้เป็น Key Things หรือสาระสำคัญที่ฝ่ายบุคคลและ/หรือหัวหน้างานทุกบริษัทกำลังมองหาจากผู้สมัครงานยุคดิจิทัล ที่น่ากลัวคือพวกเขาไม่ได้ถาม Key Things เหล่านี้ออกมาตรงๆ แต่จะคอยสังเกตคุณตลอดการสนทนา ท่านั่ง ท่ายืน การเดิน คำพูดคำจา เรียกว่าทุกท่วงท่าของคุณจะถูกประเมินเพื่อตอบคำถามเหล่านี้

มาเช็คกันดูว่าเรื่องที่พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับคุณมีอะไรบ้าง

1. คุณจะเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรที่นี้ได้ไหม?

แน่นอนว่าบริษัทย่อมให้ค่ากับพนักงานที่มีพรสวรรค์และทักษะสูง แต่หลายครั้งผู้สมัครเก่งๆ ก็ถูกปฎิเสธเพราะดูแล้ว “ไม่น่าจะเข้ากับองค์กรของเราได้” อย่าลืมว่าลึกๆ แล้วทุกบริษัทไม่อยากได้ “ตัวป่วน” ที่จะมาทำให้ระบบงานเดิมที่เสถียรแย่ลงไป

ดังนั้นคำแนะนำของเราคือพยายามเป็นตัวของตัวเองแบบไม่ก้าวร้าว มั่นใจได้แต่ก็ต้องโอนอ่อนผ่อนตาม เหมือนสูตร “วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง” เป็นตัวของตัวเองครึ่งหนึ่งเพื่อไม่ให้การตอบคำถามไม่ดูปลอม ดูเฟค แต่ก็ต้องคิดถึงใจบริษัทด้วยว่าพวกเขาอยากได้คนแบบไหน

“อย่าเป็นตัวเองเลย เป็นใครสักคนที่นิสัยดีกว่านี้หน่อยเถอะ” มิกนอน แมคลาฟลิน นักข่าวชาวอเมริกันเคยกล่าวประโยคอมตะนี้ไว้และมันใช้กับสถานการณ์นี้ได้อย่างเหมาะเจาะ

2. มี Soft Skills อะไรบ้าง

Soft Skills หมายถึงทักษะที่ใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับคน เป็นกลุ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสังคมและอารมณ์เป็นหลัก แค่อ่านดูก็รู้แล้วว่าทักษะนี้จำเป็นมากๆ สำหรับการทำงานในยุค 4.0 ที่ทุกคนต้องทำงานเป็นทีม บริษัทส่วนใหญ่สนใจคนที่มี soft skill มากเพราะโลกธุรกิจทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงแทบทุกวินาที คนที่มี soft skill สูงคือคนที่ชอบเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เข้ามาทำงานพอเจอความท้าทายใหม่ๆ ก็จะศึกษาหาความรู้และเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นได้

เวลาสัมภาษณ์งานบริษัทไม่ถามหรอกว่าคุณมี soft skill อะไรบ้าง (คิดดูสิว่าจะตลกแค่ไหนถ้ามีคนมาถามคุณว่าคุณเป็นคนมีแรงจูงใจสูงหรือเปล่า) แต่พวกเขาจะคอยสังเกตและตีความจากการตอบคำถามอื่นๆ ของคุณ การสำรวจจาก LinkedIn เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นด้านบริการจัดหางานทำการวิจัยและพบว่าทักษะที่บริษัทส่วนใหญ่ต้องการคือทักษะการบริหารเวลา การปรับตัว การทำงานเป็นทีม การโน้มน้าวจูงใจ และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนั้นบริษัทยังชอบพนักงานที่มีความเห็นอกเห็นใจ ความซื่อตรง

ทำไมบริษัทต้องมองหา soft skill เป็นสำคัญ? เพราะ hard skill หรือความรู้และทักษะที่ใข้ในการทำงานนั้นคนเราเรียนทันกันได้หมด แต่ soft skill นี่เป็น “กรรมเก่า” ที่ยากจะสอน เอาง่ายๆ ว่าถ้าธรรมชาติคุณเป็นคนไม่เคยเห็นอกเห็นใจใครเลย สอนให้ตายยังไงก็ยากที่คุณจะเอาใจเขามาใส่ใจเราได้

3. คุณชอบเรียนรู้หรือเปล่า

เมื่อโลกของการทำงานปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างกับไฮสปีดเทรนด์ บริษัทปัจจุบัน (โดยเฉพาะบริษัทไอที) จะชอบคนที่ช่างเรียนรู้ ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งความชอบเรียนรู้นี้เราขอบอกว่ามันดีต่อทั้งตัวคุณและบริษัทด้วยนะ นักปรัชญาชีวิตบางคนเคยให้ความหมายการมีตัวตนของมนุษย์ว่าคือการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องทุกวัน เมื่อเราเห็นตัวเองเก่งขึ้น ดีขึ้น ประสบความสำเร็จมากขึ้นทุกๆ วัน ชีวิตจึงจะมีความสุขใจได้ ส่วนนายจ้างเองก็อยากได้ทีมที่กระตือรือร้นและเท่าทันโลกธุรกิจอยู่เสมอ

การแสดงออกว่าคุณเป็นคนชอบเรียนรู้นั้นไม่ควรพูดออกไปตรงๆ ประมาณแบบ “ฉันเป็นคนชอบเรียนรู้ค่ะ/ครับ” มันตลกและดูไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย ขอแนะนำให้คุณลองยกประสบการณ์ในอดีตที่คุณสามารถเรียนรู้ทักษะบางอย่างแล้วนำไปแก้ปัญหาในบริษัท เช่น คุณอาจเรียนรู้วิธีใช้ Photoshop เพื่อทำโปสเตอร์โฆษณาให้บริษัทเก่าทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลย พยายามเล่าให้ละเอียดว่าคุณเรียนรู้วิธีใช้ได้อย่างไร และสนุกแค่ไหนตอนที่เรียนรู้หาวิธีการเหล่านั้น พูดถึงมันเหมือนเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่คุณภาคภูมิใจสุดๆ

อยากโน้ตไว้ตอบจบว่า 3 Key Things เป็นสิ่งที่บริษัทไม่ถามคุณออกมาตรงๆ แต่คุณต้องแสดงออกทั้งระหว่างการสัมภาษณ์ผ่านการตอบคำถาม อากัปกริยา มารยาท ฯลฯ เพื่อให้บริษัทมั่นใจว่าคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้อยู่จริงๆ สัมภาษณ์งานครั้งต่อไปอย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปใช้นะครับ ได้งานชัวร์ 🙂

ผู้ที่สนใจสามารถสั่ง GQWhite ที่สุดแห่งเสื้อขาวกับฟีเจอร์พิเศษ ที่จะทำให้คุณดูดีในทุก ๆ โอกาส คลิกเลย