ในสมรภูมิที่ดุเดือดไม่แพ้ใครอย่างธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มไทย การแข่งขันไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องรสชาติหรือราคาอีกต่อไป แต่ก้าวเข้าสู่มิติใหม่ที่เน้น “Seamless Experience” หรือประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อสำหรับลูกค้า LINE for Business ได้ตอกย้ำเทรนด์นี้บนเวทีสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “LINE FOOD TECH 2025” พร้อมเปิด “สูตรลับ” ที่จะช่วยให้แบรนด์และผู้ประกอบการทุกขนาด สามารถพลิกความท้าทายให้เป็นโอกาส และเติบโตอย่างแตกต่างในตลาด Red Ocean นี้

ตลาดอาหารและเครื่องดื่มไทย: “Red Ocean” ที่ยังคงน่าจับตา

คุณจิตวิสุทธิ์ จุฑาวิจิตร หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม LINE ประเทศไทย ชี้ให้เห็นว่า ข้อมูลล่าสุดจาก DBD ระบุว่าธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มมีการจดทะเบียนบริษัทใหม่พุ่งขึ้นเป็น อันดับ 3 ของประเทศ ในปี 2025 นี่คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของตลาดที่มีการแข่งขันสูงลิ่ว

แต่ในความดุเดือด ก็ยังมีโอกาสซ่อนอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มที่น่าสนใจ:

  • ร้านกาแฟ: ยอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้น 5%
  • มัทฉะลาเต้: ยอดขายพุ่งกระฉูดกว่า 204%
  • เพียวมัทฉะ: ติดเทรนด์เมนูถูกค้นหามากที่สุด
  • ชานมเผือกโมจิ: ยอดค้นหาเพิ่มสูงถึง 530%

ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคไทยพร้อมที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญญาณให้แบรนด์ต้องเร่งปรับตัวและนำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

“Seamless Experience” หัวใจสำคัญของการอยู่รอดและเติบโต

หัวใจหลักของการทำธุรกิจในยุคนี้คือการสร้าง “Seamless Experience” ซึ่ง LINE ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสิ่งนี้

  • LINE OA: อัตราการส่งข้อความจากธุรกิจกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มผ่าน LINE OA เพิ่มขึ้น 3% ในปี 2025
  • Messaging API: การเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 2.75 เท่า ภายใน 2 ปี สะท้อนว่าแบรนด์หันมาใช้ Automation และเทคโนโลยีบน LINE เพื่อยกระดับการสื่อสารเชิงประสบการณ์มากขึ้น

ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่ได้มีเพียงแค่การมองเห็นที่ดีขึ้น แต่ยังส่งผลต่อธุรกิจโดยตรง: ลูกค้าชำระเงินได้เร็วขึ้น 80% และ มียอดขายสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 50% นี่คือหลักฐานที่จับต้องได้ว่าเทคโนโลยีและการสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อคือปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขาย

3 ทางรอดของร้านอาหารยุคใหม่ จาก LINE MAN Wongnai

LINE MAN Wongnai ได้เผย 3 ทางรอดที่สำคัญสำหรับธุรกิจร้านอาหาร เพื่อให้แบรนด์และผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง:

  1. ใช้เทคโนโลยีเพิ่มยอดขายและลดรายจ่าย
  2. แพลตฟอร์มเดลิเวอรี: เพิ่มช่องทางขาย
  3. ระบบจัดการร้าน & การชำระเงินดิจิทัล: เพิ่มมูลค่าการซื้อเฉลี่ยต่อบิลสูงขึ้นถึง 32%
  4. QR Ordering: ทำให้การตัดสินใจสั่งอาหารสะดวก รวดเร็ว และไร้รอยต่อ

สำหรับ Agency & New Business: นี่คือโอกาสในการพัฒนาโซลูชันด้านเทคโนโลยีและระบบจัดการร้านอาหาร หรือเป็นที่ปรึกษาในการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

  • การเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุนร้านค้าขนาดเล็กให้มีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนซึ่งมีจำนวนมากถึง 79% ของตลาด สำหรับ Agency & New Business: สามารถมองหาโอกาสในการเป็นตัวกลางหรือที่ปรึกษาด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงินให้กับร้านค้า
  • ความช่วยเหลือจากภาครัฐ: โครงการสนับสนุนทางภาษี, Co-payment, หรือ “คนละครึ่ง” ช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างเป็นรูปธรรม สำหรับ Agency & Brand: ควรติดตามและใช้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐให้เต็มที่ เพื่อลดต้นทุนหรือกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาที่เหมาะสม

เจาะความสำเร็จแบรนด์ดัง: สร้าง Seamless Experience บน LINE

LINE FOOD TECH 2025 ได้ยกตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์ใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่ออย่างโดดเด่น:

  1. Bar B Q Plaza (Gon Gang): ร่วมกับ Hato Hub และ BeTask สร้างระบบสมาชิกที่ครบวงจร
  2. BeTask: ระบบจองคิวล่วงหน้าและ Walk-in พร้อมแจ้งเตือนคิวอัตโนมัติผ่าน LINE OA ช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบาย
  3. Hato Hub: ระบบจัดการ Customer Engagement ครบวงจร ทั้งสั่งอาหาร, ชำระเงิน, ใช้คูปองส่วนลดผ่าน LINE OA ส่งผลให้ เสิร์ฟอาหารเร็วขึ้น 47%, ยอดขายสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 57% และ อัตราการคลิกแบนเนอร์โปรโมชั่นเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า

สำหรับ Agency & New Business: นี่คือโอกาสในการเสนอโซลูชันระบบสมาชิกและการจัดการคิว ที่สามารถปรับให้เข้ากับธุรกิจอาหารอื่นๆ ได้

Starbucks (LINE GIFT): เป็นพาร์ทเนอร์กับ LINE GIFT สร้างช่องทางส่ง E-Voucher เป็นของขวัญ

ใช้กลยุทธ์แบ่งหมวดหมู่สินค้าและ E-Voucher หลากหลายราคา ทำให้ Starbucks กลายเป็นแบรนด์ที่ผู้ใช้ถึง หนึ่งในสาม เลือกซื้อเป็นของขวัญส่งให้กันผ่าน LINE GIFT

  • สำหรับ Brand: มองหาช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มยอดขายและสร้าง Brand Loyalty ผ่านการเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มที่มีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง
  • สำหรับ Agency & New Business: ศึกษาโมเดล LINE GIFT เพื่อแนะนำลูกค้าหรือพัฒนาบริการ E-Voucher ที่ตอบโจทย์

“Hyper-personalized” ด้วย Data บน LINE: กุญแจสู่การเติบโตแบบทวีคูณ

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือการใช้ Data เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ Hyper-personalized ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจและสื่อสารกับลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น:

เลย์ (Lay’s): ใช้แคมเปญ Mission Sticker ร่วมกับคาแรกเตอร์ BT21 สามารถเก็บข้อมูลผู้บริโภคได้กว่า 400,000 คน นำข้อมูลมาแบ่งหมวดหมู่ลูกค้าตามพฤติกรรมและความสนใจ เพื่อสร้างและนำเสนอคอนเทนต์ที่เหมาะสม ส่งผลให้ ประสิทธิภาพการตลาดโตขึ้นจากหลักเดียวเป็นสองหลัก

เต่าบิน: ใช้จุดแข็งจากระบบดิจิทัลของเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ ผสานกับการใช้ LINE OA สื่อสารโปรโมชันเฉพาะเมนูที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มสนใจ หรือส่งโปรโมชันกระตุ้นลูกค้าที่หายไปให้กลับมาซื้อซ้ำ ส่งผลให้ อัตรา Conversion เพิ่มสูงสุดถึง 30%

สำหรับ Agency & Brand: การลงทุนใน Data Collection และ Data Analysis คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างแคมเปญที่แม่นยำและเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดได้อย่างก้าวกระโดด การเข้าใจและนำข้อมูลลูกค้ามาใช้ประโยชน์คือ “ของจริง” ในยุคนี้ สำหรับ New Business: เน้นการสร้างระบบเก็บข้อมูลลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้น และออกแบบกลยุทธ์การสื่อสารแบบ Personalized เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

การสัมมนา LINE FOOD TECH 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการเปิด “สูตรลับ” เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยจะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี, Data และการสร้าง “Seamless Experience” ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชาญฉลาดและมีความคาดหวังสูงขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์, เอเจนซี่, และผู้ประกอบการรายใหม่ที่สามารถปรับตัวและนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ได้อย่างชาญฉลาด จะเป็นผู้ชนะในสมรภูมิ Red Ocean แห่งนี้ได้อย่างยั่งยืน

"thumbsup" (อ่าน ธั๊ม’ส-อัพ) คือชุมชนของ "นักเรียนการตลาดตลอดชีวิต" เรามีข่าวสาร, บทความ, บทสัมภาษณ์ ตลอดจน event ที่นักการตลาดหลายคนชื่นชอบ เช่น Spark Conference, Digital Matters